[Review] รีวิว เกาะลันตา-เกาะรอก by ferry advice
- หน้าแรก
- /
- รีวิวและ อัพเดตการท่องเที่ยว
- / [Review] รีวิว เกาะลันตา-เกาะรอก by ferry advice
[Review] รีวิว เกาะลันตา-เกาะรอก by ferry advice
เกาะลันตา ( Lanta Island ) อยู่ทางทิศใต้ ของจังหวัดกระบี่ มีขนาดพื้นที่ 339.9 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ แถบสแกนดิเนเวีย เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และเป็นเกาะที่เป็นจุดเชื่อมต่อ ของการออกทริปไปดำน้ำ ซึ่งสามารถไปได้หลายเกาะเลยทีเดียวค่ะ
รีวว เกาะลันตาในครั้งนี้ เป็นรีวิว การเดินทางต่อจาก เกาะพีพีดอน โดยเรานั่งสปีดโบ๊ทข้ามจากเกาะพีพีดอน มายังเกาะลันตาใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หากใครจะมาเที่ยวลันตา ถ้าไม่มาจากทางภูเก็ต ก็สามารถเลือกเดินทาง มาจากทางกระบี่ นั่งเครื่องลงที่กระบี่ได้ค่ะ และมาจากหลีเป๊ะ ก็ได้เช่นกันค่ะ สำหรับทริปของเราเลือกที่จะเดินทางมาจากฝั่งภูเก็ตเนื่องด้วยไฟล์บินและรอบเรือที่เอื้ออำนวยต่อการเดินทางมากกว่า เชิญรับชมรีวิว การเดินทางสู่เกาะลันตาใหญ่ ได้เลยค่ะ
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
เรือออกจากพีพีดอน เวลา 09.30 น. นั่งสปีดโบ๊ทประมาณ 30 นาทีเราก็ถึงเกาะลันตาใหญ่ค่ะ วันนี้นักท่องเที่ยวเดินทางเยอะค่ะ คนเต็มลำเลยทีเดียว
ซิ่งเลยลูกเพ่ วันนี้คลื่นสงบมาก เรืองนิ่งมาก นั่งแป๊บเดียวถึง เกาะลันตาใหญ่ค่ะ
เรือสปีดโบ๊ทจะมาเทียบที่ ท่าเรือด่านศาลา เกาะลันตาใหญ่ เราต้องเดินข้ามเรือ เพื่อขึ้นมาที่ท่าเรือพนักงานลูกเรือจะยกกระเป๋ามาให้เราค่ะ
ข้ามเรือมาแล้วค่ะ รอรับกระเป๋าเสร็จก็เดินเข้า ท่าเรือด่านศาลา
นักท่องเที่ยวนั่งรอเรือค่อนข้างเยอะค่ะ เพราะท่าเรือด่านศาลา เป็นท่าเรือหลักของเกาะลันตา เป็นจุดต่อเรือ ของคนที่เดินทางจาก พีีพีดอน ไปเกาะหลีเป๊ะ เกาะมุก เกาะไหงหรือ นั่งเรือข้ามไปอ่าวนาง มีเรือมากมายที่มาจอดรับนักท่องเที่ยวที่ท่าเรือแห่งนี้
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
เดินเข้าท่าเรือ จะมีพนักงานเรียกเก็บค่าใช้บริการท่าเรือคนล่ะ 10 บาท คนไทยไม่ต้องจ่ายค่ะ สำหรับทริปนี้ เราพักที่ cliff lanta suite เราโทรแจ้งให้ทางรีสอร์ทมารอรับที่ท่าเรือล่วงหน้าก่อนจะลงเรือค่ะ พนักงานรีสอร์ทก็แจ้งลักษณะ หรือสีเสื้อของคนที่มารับเรา และแจ้งชื่อคนขับรถค่ะ
หลังจากที่เจอคนมารับก็ไปขึ้นรถกันเลยค่ะ รีสอร์ทที่เราพักอยู่ห่างจากท่าเรือประมาณ 8 กิโลค่ะ
รถของทางรีสอรืทที่มารับเราที่ท่าเรือค่ะ ขอย้ำนะค่ะว่าฟรีค่ะ หากใครมาเที่ยวลันตา แนะนำให้คุยต่อรองกับทางรีสอร์ทให้มารอรับที่ท่าเรือค่ะ ไม่เช่นนั้นเราจะเสียค่ารถไปรีสอร์ท ขั้นต่ำคนล่ะ 300 บาท/คน/เที่ยว
นั่งรถประมาณ 35 นาที จริงๆมันไม่ไกลจากท่าเรือมาก แต่คุณลุง แกขับรถไม่เร็วมาก ชมบรรยากาศข้างทางมาเรื่อยๆ และแล้วมาถึงรีสอณืท กันสักทีค่ะ รีสอรืทที่เราลเือมาพักในครั้งนี้เป็น รีสอร์ทที่พึ่งเปิดให้บริการใหม่ พึ่งเปิดมาได้ 6 เดือนนับถึงวันที่เราเดินทางไปนะค่ะ
ถึงรีสอร์ทแล้วทำการลงชื่อเชคอิน ให้เรียบร้อย
well come drink ด้วยน้ำอัญชัญเย็นๆ อร่อยมาก
สีสันสวยๆมาก ปกติไม่ค่อยได้กินน้ำอัญชัญเท่าไหร่ อร่อยใช่เล่นค่ะ หลังจาก well come drink เสร็จก็ขนกระเป๋าเข้าห้องพักกันค่ะ
ห้องพักเรามีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เป็นห้องเตียงเดียว sea view มองออกด้านข้างเป็นทะเล
ถ้าสังเกตุ ในรูปฝั่งซ้ายมือของเตียงจะเป็นระเบียงที่สามารถเปิดออกไปรับลมเย็นๆได้
ห้องน้ำก็จะเป็นแบบมีกระจกใสเห็นวิวทะเล ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัว ก็ปิดม่านได้ค่ะ
ระเบียงภายนอกห้องพัก นั่งชิวๆรับลมเย็นๆค่ะ เนื่องจากเรามาหน้าหนาว อากาศก็จะเย็นๆไม่ถึงขั้นหนาวมากนะค่ะกำลังพอดี บางวันฟ้าจะครึ้มๆหน่อย
โซฟาภายในห้อง เผื่อนั่งเล่น หรือนอนดูทีวีค่ะ หรือจะนั่งทำงานก็ได้ หลังจากเก็บของเข้าห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ไม่เช่ามอไซต์ ไปซิ่งรอบเกาะกันค่ะ วันนี้กะจะเช่ารถคันเล็ก 350 บาท/คัน คันเล็กดันหมด เลยได้ pcx 450 บาท/คัน/วัน มาแทนดีเหมือนกันขี่ขึ้นเขาสบาย
ออกมาจากรีสอร์ทไม่ไกล มาหาข้าวเที่ยงทานกันค่ะ ถ้าจะมาเที่ยว ลันตาใหญ่ แนะนำว่ามาหาข้าวทานนอกรีสอร์ทจะอร่อยและถูกกว่าค่ะ
มื้อเที่ยงเบาๆค่ะ ต้มยำทะเลน้ำข้น
ผัดกุ้งมะขามเปียก กุ้งตัวใหญ่ สดและอร่อยมาก
ทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ โอ้แซ่บหลาย คืออร่อยคอนเฟิร์มเลยค่ะ ไม่ใช่เพราะหิวนะ รสชาติทำให้คนไทยทาน ไม่ได้ออกรสชาติทำให้ต่างชาติทาน
โค้กเย็นๆ คนล่ะแก้ว ค่าเสียหายมื้อนี้ 300++ รับได้ถือว่าไม่แพง
ปั๊มน้ำมันน้อย เติมน้ำมันก่อนแว้นไปเที่ยวอุทยานแห่งเกาะลันตากันค่ะ
ถนนทางเข้าอุทยานค่ะ ถนนทางเข้าอุทยานจะดีกว่า ถนนบนเกาะซะอีก พื้นถนนค่อนข้างเรียบ แต่ไม่แนะนำให้ขับเร็วนะค่ะเพราะเราไม่คุ้นทาง
ขี่มาสักพัก ก็เจอเจ้าถิ่นแวะมามักทาย มาขอของกินเราไม่มอะไรจะให้ กลัวอย่างเดียวอย่ากัดเค้านะ แล้วค่อยๆขับมอไซต์ผ่านไปอย่างช้าๆ
ขับมาสักพักก็ถึง ด่านตรวจของเจ้าหน้าที่อุทยาน จะมีเจ้าหน้าที่เรียกเก็บค่าเข้าอุทยาน และค่ามอไซต์
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
ค่าเข้าอุทยาน คนล่ะ 40 บาท ค่าจอดรถมอไซต์ คันล่ะ 20 บาท รวม 100 บาท
ขับต่อมาอีกหน่อย ก็เข้าเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ในอุทยานมีลิงค่อนข้างเยอะแต่ไม่มีนิสัยดุร้ายนะค่ะ น่าจะคุ้นกับนักท่องเที่ยว
ลิงน้อย ก็หญ้า ก็เม็ดผลไม้กินเล่น ในเขตอุทยานจะไม่มีสัญญา โทรศัพท์เลยนะค่ะ
ประภาคาน ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังเป็นระยะ ลมหนาวโชยมา นั่งฝั่งเสียงคลื่นไปพลางๆจะหลับ หลังจากนั่งชมบรรยากาศสักพักใหญ่ ก็ได้เวลาเดินทางไป เมืองเก่า ถนนคนเดินต่อ กันแล้วค่ะ
เข้ากลับออกมาจากอุทยาน จะมีร้านอาหาร ริมเขา บรรยากาศดีมากค่ะ แต่เราไม่มีโอกาสได้แวะทานนะค่ะ เก็บภาพบรรยากาศมาฝากค่ะ
ร้านนี้ก็จะเห็นวิวทะเล บรรยากาศค่อนข้างดี ลมพัดเย็นค่ะ ได้เวลาที่เราจะขับมอไซต์ ต่อไยังเมืองเก่า กันแล้วค่ะ ตามมาเลยค่ะ
ขับรถมาเป็น สิบๆกว่า กิโลถึง เมืองเก่า ซึ่งเป็นตลาดที่เปิดเป็นร้านอาหารและขายของใฝากทั้งสองข้างทาง ไตล์ย้อนยุคเหมือนบ้านหรือร้านค้าโบราณค่ะ
ก่อนทางเข้า เมืองเก่า จะมีอนุเสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ เสด็จเตี่ย ที่เคารพและศรัทธา ของเราชาวไทย ทุกครั้งที่เราได้ออกรีวิว การเดินทางไปยังเกาะต่างๆ ที่มีอนุเสาวรีย์ เสด็จเตี่ย ไม่มีครั้งไหน ที่จะไม่แวะไหว้สักการะท่าน เพื่อให้ท่านคุ้มครองปกปักรักษาทุกครั้งที่เราออกทะเล และขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลายของพระองค์ท่านจงช่วยคุ้มครอง นักท่องเที่ยวทุกท่านที่เดินทางกลับบริษัมเราตลอดการเดินทาง
ถ่ายรูปให้ เฮียเป็นที่ระลึก สักหน่อยค่ะ
หลังจากนั้นก็เดินเล่นภายในเมืองเก่า มีร้านอาหารขายค่อนข้างเยอะค่ะ ทั้งสองฟากฝั่ง
เจอร้านบรรยากาศถูกใจ แวะสัหน่อยค่ะ หิวอีกแล้ว !!!!!!!!!
บรรยากาศ ภายในร้านค่ะ บรรยากาศดีมาก ด้านหลังจะมีโซนที่นั่งทานอาหาร ริมทะเลค่ะ แต่เราเลือกโซนใน เพราะข้างนอกคนค่อนข้างเยอะ
เป็นคนทานง่าย ไม่ทานหนัก แต่ทานได้เรื่อยๆค่ะ ปอเปี๊ยะทอด จัดเบาๆก่อนค่ะ
ผัดไทยห่อไข่ คิดอะไรไม่ออกก็ผัดไทยค่ะ ทานง่าย ยังไงก็อร่อย หลังจากทานมื้อเย็นเบาๆ เสร็จก็ขับมอไซต์กลับ ขากลับแวะไปที่ตลาดแถว ด่านศาลาค่ะ
หลักกิโลเมตรลันตา ยืนบังซะมิดเลย
อันนี้จะพามาทานอาหารโซนอร่อยและถูก เที่ยวเกาะไม่จำเป็นต้องกินแพงๆ เน้นอะไรที่อยากกินก็สั่ง ถนนคนเดินวัฒนธรรม ฝรั่งมาเดินเยอะมาก ไหนๆ มีอะไรดี มาดูกันสิ
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
ไก่อย่าง 3 ไม้ 40 บาท บางทีเรากินอาหารทะเลทุกวันมันก็เบื่อ เอาแบบธรรมดาแซ่บๆไม่ต้องห่วงสวย รีวิวนี้จัดมาเลยค่ะ
ข้าวราดแกงก็มี ด้านข้างมีโต๊ะให้นั่งทาน บริการตัวเองค่ะ
โดนัท 5 บาท 10 บาท นี่มันราคาบนฝั่งเลยนี่น่า ผู้ใหญ่ทานได้ เด็กทานดี
กะจะเดินผ่านแล้ว พี่เค้าแซวไม่แวะหน่อยเหรอ จัดไปค่ะ เคปชาโค ใส่มันทุกอย่า 35 บาท
มันก็จะน่ากินหน่อย เดินมาตั้งนานหมดไม่ถึง 150 บาท ราคานี้หาได้ที่ไหน ถ้ามีโอกาสมาลันตา แวะมาตามรีวิว เรานะจ๊ะ
ตื่นเช้าวันใหม่ หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ วันนี้มี ออกทริปดำน้ำที่ ''เกาะรอก'' รถจะมารับที่รีสอร์ทเวลาไม่เกิน 07.40น. ต้องเตรียมตัวและอุปกรณืไปดำน้ำให้พร้อมค่ะ
รถจะมาส่งเรา เชคอินลงทะเบียนชื่อทุกคนที่ลงเรือ เพราะเรือมีประกันอุบัติเหตุค่ะ ต่อไปนี้จะเป็นรีวิวให้รับชมบรรยากาศ เกาะรอก
หลังจากเชคอินกับพนักงานเสร็จ พนักงานจะพาเราเดินไปขึ้นเรือยัง ท่าเรือเมืองเก่า เดินประมาณ 20 นาทีค่ะ เรือลำสีขาวๆลำนี้ล่ะค่ะ จะพาเราไปเที่ยวเกาะรอก วันเดย์ทริป ในวันนี้
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
ลงเรือมาเป็นคนแรกเลยค่ะ ภายในเรือค่ะ เรือลำค่อนข้างใหญ่ เราจำกัดประเภทเรือลำนี้ว่าเป็นเรือประเภทสปีดโบ๊ท แต่เราว่าหน้าตามันแปลกๆนะ คือมันกว้างและใหญ๋ดีอ่ะ
บริเวณหัวเรือ ค่อนข้างกว้างค่ะ ออกไปนั่งชมวิวได้ค่อนข้างสบายค่ะ
ในเรือจะมีห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำสะอาดและกว้างค่ะ
หลังจากที่นักท่องเที่ยวทุคนลงเรือเรียบร้อยแล้ว ไกด์ ก็จะอธิบายคร่าวๆว่าทริปวันนี้มีอะไรบ้าง เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวเอง และทีมงานที่จะดูแลเราวันนี้ค่ะ ไกด์น่ารักมากค่ะ เป็นกันเอง ชวนคุยและถ่ายรูปให้เราตลอดทริปเลยค่ะ
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
นั่งเรือจากท่าเรือ เมืองเก่า เกาะลันตาใหญ่ ออกทะเลมาประมาณ 1 ชม. 30 นาทีเรือมาจอดที่เกาะรอก เกาะรอกมี สองฝั่ง ทั้งเกาะรอกใน เกาะรอกนอก ซึ่งอยู่แค่ตรงข้ามกัน สำหรับนั่งท่องเที่ยวท่านใดที่ไม่ต้องการดำน้ำ ในช่วงเช้า สามารถขึ้นไปพักที่อุทยานเกาะรอกได้ เพราะตอนเที่ยงเรือจะวนมาส่งนักท่องเที่ยวที่ดำน้ำเสร็จพักทานอาหารกลางวันบริเวณจุดนี้
เกาะรอก จังหวัดกระบี่ ได้รับสมยานามว่า "ราชนี แห่งอันดามัน" เกาะรอกเป็นเกาะที่อยู่ในน่านน้ำทะเลกระบี่ ที่เชื่อมต่อกับทะเลตรัง มีลักษณะเป็นสองเกาะเล็กๆที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน มีหาดทรายที่ขาวละเอียด
เรือได้พาเรามาดำน้ำจุดแรกของวัน บริเวณเกาะรอกนอก จุดนี้ประมาณ 40 นาที ไกด์จะอธิบายว่า เรือจะบีบแตรส่งสัญญาณ ให้เตรียมความพร้อมไปดำน้ำจุดอื่นต่อ อย่าดำน้ำเพลินจนลืมฟังเสียงแตรจากเรือนะค่ะ
น้ำทะเลจุดนี้จะเป็นสีเขียวมรกต ปะการัง จะเป็นสีน้ำตาลเกือบทั้งหมด
ดำน้ำไปก็เจอปลาหมึก แต่มันหลบเข้าโขดหิน เลยเห็นแค่หัวโผ่ลออกมาค่ะ
น้ำใสมาก กระแสน้ำอุ่น ออกทะเลหน้าหนาว แต่อากาศไม่ได้หนาวมากนะจ๊ะ
ประกาลังมีสีน้ำตาล สีเขียว สลับกันอยู่เป็ย่อมๆ
หลังจากดำน้ำโซนแรก เกาะรอกในเสร็จ เรือก็ผ่าเรามาชมความสวยงามของน้ำตกค่ะ น้ำตกลงเล เป็นน้ำตกที่อยู่ในพื้นที่ของเกาะรอกใน ไกด์บอกว่าถ้าหน้าฝนน้ำตกจะไหลแรงมาก ไหลออกมาด้านข้างเซาะ หน้าผาเลยทีเดียว
จุดดำน้ำสุดท้ายก่อนพักทานอาหารเที่ยงค่ะ อ่าวม่านไทร ( Man sai bay ) ระดับความลึกของจำจุดนี้ประมาณ 15 เมตร ไม่ธรรมดานะจ๊ะ หลังจากดำน้ำจุดนี้เสร็จก็ได้เวลาพักทานข้าวเที่ยงค่ะ เรือจะขับมาส่งเราที่ เกาะรอกใน เพื่อพักทานข้าวที่อุทยานค่ะ
เรือมาจอดเทียบสะพานให้เรา พักทานอาหารเที่ยงที่อุทยานค่ะ พนักงานจัดอาหารไว้รอเรียบร้อย
นี่คือกรุ๊ปดำน้ำของเราค่ะ เดินต่อแถวเข้าคิวกันตักอาหารเที่ยงทานค่ะ
อาหารก็เป็นแบบบุฟเฟ่ เติมไม่อั้นค่ะ มีขนมและน้ำอัดลม เย็นๆให้เลือกดื่ม
บรรยากาศโดยรอบของอุทยานค่ะ จะมีเก้าอี้ ให้นั่งพัก ตามจุดต่างๆภายในอุทยาน มีห้องน้ำ และร้านค้า คอยให้บริการนักท่องเที่ยวค่ะ
หลังจากทานอาหารเสร็จ ก็เดินเล่นบริเวณแถวชายหาด หาดทรายขาวละเอียดมากค่ะ น้ำทะเลสีฟ้าคราม โอ้สวรรค์บนดินชัดๆ
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
ชายหาดหน้าอุทยาน สามารถเล่นน้ำได้ค่ะ เพราะน้ำบริเวณนี้ระดับน้ำไม่ลึก และทรายขาวละเอียดไม่มีโขดหิน
หลังจากเดินเล่นรอบหาด ก็ได้เวลาออกเรือไปดำน้ำต่อค่ะ จุดสุดท้ายวันนี้เราจะไปดำน้ำดูปลาการ์ตูนกันค่ะ
นีโม่ตัวน้อย อันนี้มีประมาณ 3 ตัวค่ะ
ตรงนี้ก็จะเยอะหน่อย มีนีโม่หลายตัว อาศัยอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว
ปะการังที่เกาะรอกจะเป็นปะการังสีน้ำตาลเป็นส่วนใหม่ มีค่อนข้างเยอะค่ะ และน้ำก็ลึกมาก เป็นสิบกว่าเมตรเลย
ว๊าว ดูสิตัวอะไร เต่ามองเห็นอยู่ไกลๆ เราไม่สามารถดำน้ำลึก 15 เมตร เพื่อไปถ่ายได้ ต้องขอบคุณความสารถขอไกด์ ในทริปที่จัดรูปสวยๆให้ค่ะ บอกลารูปสุดท้ายความประทับใจจากเกาะรอกวันนี้ ช่วงเย็นเวลา 16.00น. ก็ได้เวลาเดินทางกลับไปพักผ่อนที่รีสอร์ท
เรือมาส่งเราที่ท่าเรือเมืองเก่า เหมือนเดิมและมีรถสองแถวไปส่งถึงรีสอร์ท ขอบคุณสำหรับทริปดีๆวันนี้
หลังจาก อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็ขี่มอไซต์ มาหาข้าวเย็นทานกัน มาสะดุด ตาหนึ่งร้าน แวะจอดด้วยความหิว ร้าน BOBBY BIGBOY บรรยายกาศภายนอกร้านตกแต่งเก๋ๆค่ะ
มีรถเท่ๆ จอดอยู่หน้าร้านหนึ่งคัน ตกแต่งร้านบรรยากาศหน้านั่งยามเย็นค่ะ
เมนูและราคาอาหารของทางร้านค่ะ ราคาทั่วไปไม่แพงมากแล้วแต่ชนิดของอาหารที่เราสั่งค่ะ
บรรยากาศภายในร้านค่ะ ลมเย็นพัดโชยมาตลอดเวลาค่ะ ไปเลือกอาหารกันเลยค่ะว่าจะทานอะไรกันดี
กระดูกหมู ทอดกระเทียม อร่อยมากค่ะ มีเหนียวนิดหน่อย รสชาติกำลังโอเครเลย
ต้มข่าไก่ ด้วยความที่เริ่มเบื่ออาหารทะเล ก็อยากกินอย่างอื่นบ้าง
ผัดไทยกุ้งสด อันนี้สั่งให้เฮียค่ะ บอกว่าอยากเห็น ก็จัดสิค่ะ
ตบท้ายด้วยเมนู หวานๆของค่ำคืนนี้ คือแบบตื้นตันมาก เมนูนี้ พี่เจ้าของร้านทำให้ทานฟรีไม่คิดเงิน คนไทยมีน้ำใจไม่แพ้ชาติใดในโลก ขนาดเราบอกว่าคิดเลยค่ะ เค้าก็ยืนยันไม่คิดเงิน แถมลดราคาอาหารทั้งหมดที่เราทานให้ อีก 15 % ใครมาเที่ยว เกาะลันตาใหญ่ แวะมาทานอาหารร้านพี่เค้าได้นะค่ะ
ถ่ายรูปให้ เฮีย ก่อนกลับสักหน่อย ไม่รู็หุ่น กับคน อะไรอ้วนกว่ากัน 5555 หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็กลับไปพักที่รีสอร์ท พรุ่งนี้เราต้องเเดินทางกลับแล้ว
เวลาผ่านไปไวเสมอ เช้าวันใหม่ เดินมาเล่นที่หาดหลัง รีสอร์ท วิวรีสอร์ทด้านที่ติดหาดนะค่ะ
หาดทรายหลังรีสอร์ท จะมีโขดหินค่อนข้างเยอะค่ะ เป็นหินสีดำก้อนใหญ่ มีอยู่เต็มหาดเลยค่ะ ตอนเช้าก็จะมีคนมาตกปลา ประจำเกือบทุกวัน ถึงเวลาที่ต้องเตรียมตัวเก็บกระเป๋าเก็บของไปที่ท่าเรือกันแล้วค่ะ กรณีเราจองเรือไว้ล่วงหน้า บริษัทเรือจะมีบริการรถมารับที่รีสอร์ทฟรี เพื่อไปส่งที่ ท่าเรือด่านศาลา ควรสแตนบายรอรถอย่างน้อย 1 ชม. ก่อนเวลาเรืออกค่ะ
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
รถมาส่งเราที่ ท่าเรือด่านศาลา เราต้องเชคอินก่อนเวลาเรือออกอย่างน้อย 30 นาทีค่ะ
จุดเชคอินหาไม่ยากค่ะ เราเดินทางกลับจากลันตาไปภูเก็ต โดยเรือสตูลปากบาราสปีดโบ๊ทคลับ lobby เรือจะอยู่ด้านซ้ายมือ เดินเข้าไปเชคอินได้เลยค่ะ สามารถเปฺด voucher ผ่าน smart phone ในการเชคอินได้ค่ะ
หลังเชคอินเสร็จก็มานั่งรอเรือค่ะ ที่นั่งค่อนข้างกว้าง สามารถสั่งอาหารทานรอได้ค่ะ
หลังจากเชคอินเสร็จ พนักงานจะให้สติ๊กเกอร์ ไว้สำหรับติดเสื้อและกระเป๋าเดินทางของเราค่ะ พอใกล้เวลาเรือมาถึงพนักงานจะมาตามเราลงเรือเองค่ะ
ถึงเวลาเดินทางกลับภูเก็ตกันแล้วค่ะ เรือสปีดโบ๊ทใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. 30 นาที เรือจะไปส่งเราที่ท่าเรือรัชดา
นั่งแป๊บเดียวก็ถึงท่าเรือรัชดา ขากลับเรือจะแวะรับ- ส่งผู้โโยสารที่ เกาะพีพี ดอน ก่อนวิ่งเข้าท่าเรือรัชดาประมาณ 10 นาทีนะค่ะ
นี่คือ สปีดโบ๊ทที่เรานั่งมาวันนี้ หลังจากรับกระเป๋าเดินทางเสร็จ ก็เดินไปรอรถมารับเพื่อไปส่งสนามบินภูเก็ตค่ะ เราโทรนัดให้รถมารอรับล่วงหน้าไว้แล้วก่อนเรือจะมาถึงท่าเรือรัชดา
รถมารับตามที่นัดไว้ เราใช้เวฃาเดินทาง จากท่าเรือรัชดา ไปสนามบินนานาชาติภูเก็ตประมาณ40 นาทีค่ะ พี่คนขับรถตามว่าจะแวะซื้ออะไรก่อนเข้าสนาบินมั๊ย เพราะสนามบินของจะราคาค่อนข้างแพง เราก็บอกไม่เป็นไรค่ะ ไม่ค่อยหิว รถวิ่งตรงมาส่งสนามบิน
ถึงแล้วค่ะ สนามบินภูเก็ต
จบทริปนี้ ด้วยความเหนื่อย แต่สนุก พร้อมกับเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ที่แสนคุ้มค่ากับทะเลฝั่งอันดามันของประเทศไทยเรา
หากรีวิวนี้มีเนื้อหา หรือ บทความใดที่มีความคลาดเคลื่อนหรือผิดพลาดบางประการต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ เพราะเป็นรีวิวที่จัดทำขึ้นจริงออกเดินทางจริงโโยแอดมินผู้ดูแลดเพจ
สำรองที่นั่งสปีดโบ๊ท จากท่าเรือรัชดา มาเกาะพีพีดอน เกาะลันตา เกาะมุก เกาะไหง เกาะหลีเป๊ะ
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่