การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ จากสนามบินหาดใหญ่
- หน้าแรก
- /
- รีวิวและ อัพเดตการท่องเที่ยว
- / การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ จากสนามบินหาดใหญ่
การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ จากสนามบินหาดใหญ่
สวัสดีเกาะหลีเป๊ะ
สำหรับวันหยุดพักผ่อนในหน้าร้อน คงหนีไม่พ้นการเที่ยวทะเล เพราะนอกจากจะได้เล่นน้ำทะเลแล้ว ยังเปลี่ยนบรรยากาศหลีกหนี ความวุ่นวายในเมือง เพื่อไปสัมผัส ธรรมชาตืที่แท้จริง เกาะที่เป็นตัวเลือกเราในการเดินทางครั้งนี้
คือ " เกาะหลีเป๊ะ "
ข้อมูลเกาะหลีเป๊ะ
- หาดพัทยา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะหลีเป๊ะ
- หาดซันไรท์ อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะหลีเป๊ะ ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านชาวเล
- หาดคาร์มา อยู่ทางตอนเหนือ ซึ่งหันหน้าเข้ากับเกาะอาดัง
- หาดซันเซ็ท อยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งหันหน้าเข้ารับแสงของพระอาทิตย์ ตามชื่อของหาด
เกาะหลีเป๊ะ เป็นเกาะที่มีความกว้างระหว่างหัวเกาะไปถึงท้ายเกาะประมาณ 3 กิโลเมตร
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
แน่นอนว่าการเที่ยวใต้นั้น ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่อนข้างสำคัญ ฉะนั้นเราควรวางแผนล่วงหน้า ก่อนอื่น เลือกรีสอร์ทที่ถูกใจ จองผ่าน agoda หรือ ว่า booking.com ก็ได้ค่ะ มีให้เลือกหลายที่ และจองเครื่องแน่นอนว่ายิ่งจองก่อนเดินทางนานยิ่งดี เพราะราคาเครื่องจะถูก
วันนี้เราจะเดินทางไป เกาะหลีเป๊ะ กันค่ะ ไปลงที่สนามบินหาดใหญ่ บอกเลยว่าพร้อมมาก
การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะครั้งนี้เราเลือกเดินทางโดย air asia ค่ะ ไปไฟล์ เช้าสุด 06.30 น. ถึงสนามบิน หาดใหญ่ เวลา 08.00 น.
ถ่ายรูป กะเพื่อนรักซะหน่อย ทริปนี้เธอคนจัดทริปตลอดการเดินทาง ต้องขอบคุณที่หาเวลาพาเพื่อนๆไปเปิดหูเปิดตา
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
เป้าหมายเราคือ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ นั่งแป๊บเดียวถึงแล้วค่ะ พอถึงสนามบิน มารับกระเป๋า ให้เรียบร้อยแล้วเข้าห้องน้ำให้เสร็จเลยนะค่ะเราจะต้องนั่งรถตู้กันอีกประมาณ 2 ชม. ค่ะ เพื่อจะไปท่าเรือปากบารา
ขึ้นเครื่องแล้วนะค่ะ อีก 1 ชั่วโมง 20 นาที เจอกันนะค่ะหาดใหญ่
เราได้ทำการจอง รถ+ เรือ เพื่อที่จะให้มารับที่สนามบิน ไว้ล่วงหน้าก่อนเดินทางเช่นกันค่ะ รถราคา 250 บาทต่อท่านต่อเที่ยว ราคาเรือจะตามรอบนะค่ะ ราคาอยู่ที่ 500 บาทต่อท่าน ต่อเที่ยวค่ะ เราทำรายการจองรถรอบ 08.30 เพื่อที่จะให้ทันเรือ รอบ 11.30 น. เพราะรถใช้เวลาเดินทางจากสนามบิน หาดใหญ่ ถึงท่าเรือปากบารา 2 ชั่วโมงค่ะ ทำรายการจอง รถ+ เรือ ได้ที่
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
รถตู้ที่นั่ง ประมาณ 12 ที่นั่งค่ะ เราใช้เวลา 2 ชม.จากสนามบินถึง ท่าเรือปากบารา
เมื่อรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ให้เดินมารอหน้าประตู ทางเข้าสนามบินนะค่ะ คนขับรถตู้ เค้าจะโทรหาเราตามเบอร์ ที่ระบุ ใน booking ที่ทำรายการจอง รถ+เรือไว้ค่ะ เค้าจะแจ้งเลขทะเบียนรถ เพื่อที่เราจะได้ขึ้นรถตู้ได้ถูกคันค่ะ โดยรายละเอียดแล้วคนขับรถตู้และพนักงานจะโทรมา Confirm กับลูกค้าก่อนวันเดินทาง 1 วันค่ะ และในวันเดินทางจะโทรหาลูกค้าเมื่อลูกค้าถึงสนามบินแล้วหรือให้โทรหาคนขับรถได้เลย (ปกติจะมารับที่ด้านหน้าอาคาร)
ภายในรถตู้ค่ะ เรากำลังจะเดินทางไปท่าเรือ ปากบารา กันค่ะรถตู้จะมาจอดที่ lobby เรือค่ะ รถ+ เรือ ที่ทำรายการจองต้องเป็นบริษัทเดียวกันนะค่ะ เราต้องนำ voucher แลกตั๋วเรือที่นี่ค่ะ หรือว่าแจ้งแค่ชื่อก็ได้ค่ะ
ท่าเรือปากบารา จ.สตูล ค่ะ เมื่อเราได้ตั๋วเรือเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราต้องเดินข้ามถนน มายังศูนย์อำนวยการท่าเรือปากบารา ประมาณ 200 เมตร ค่าใช้บริการท่าเรือ 20 บาทต่อท่านค่ะ
– ซื้อของกินของใช้ก่อนลงเรือ ที่ปากบาราจะมีร้านขายของ ร้านสะดวกซื้อหลายร้าน ถ้ามากันหลายคนแนะนำให้ซื้อของจากที่นี่ขึ้นเรือไปหลีเป๊ะเลย เพราะของบนเกาะหลีเป๊ะราคาแพงกว่าบนฝั่งพอสมควร อย่างเช่นแปปซี่กระป๋องทั่วไปขาย 14 บาท 7-eleven บนเกาะหลีเป๊ะขาย 24 บาท
– สัญญาณโทรศัพท์ บนเกาะมีสัญญาณโทรศัพท์ครบทั้ง 3 เจ้า AIS, DTAC, True
– ตู้ ATM มีตู้ ATM ธนาคารกรุงศรีหน้า 7-eleven และถนนคนเดิน
เราจะต้องรับบัตรคิวลงเรือนะค่ะ ดูตั๋วเรือด้วยนะค่ะ ว่าเราไปเรือของบริษัทไหนจะได้ขึ้นเรือถูกค่ะ ถ้าไม่จองล่วงหน้าคงต้องนั่งรอรอบถัดไป เพราะคนเดินทางเยอะมากค่ะ เรื่อลำที่เราไปคือ สปีดโบ๊ท ของหลีเป๊ะ เฟอร์รี่ค่ะ แต่เป็นสปีดโบ๊ทลำใหญ่นะค่ะ วิ่งนิ่งเลยทีเดียว
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
เมื่อเราเชคอินรับตั๋วเรือแล้ว เราจะได้สติ๊กเกอร์ (สติ๊กเกอร์เอาไว้ติดเสื้อนะค่ะ) และ บัตรคิวลงเรือค่ะ เราต้องไปรอขึ้นเรือที่ท่าเรือปากบาราก่อนเวลาเรือออก 30 นาทีนะค่ะ
บัตรคิวลงเรือค่ะ เวลาลงเรือพนักงานจะเรียกลงเรือตามลำดับบัตรคิวนะค่ะ
เมื่อเราได้รับบัตรคิวลงเรือแล้ว ก็ให้เดินมาขึ้นเรือที่ท่าเรือปากบาราค่ะ อยู่ไม่ไกลจาก lobby เรือที่เรา เชคอินค่ะ ประมาณ 300 เมตร
วันนี้คนเดินทางเยอะมาค่ะ รอต่อคิวเข้าท่าเรือค่ะ
ชำระค่าตั๋วก่อนใช้บริการท่าเรือก่อนเข้านะค่ะ คนล่ะ 20 บาทค่ะ จ่ายแค่ครั้งเดียวค่ะ จากนั้นเราก็เดินไปรอขึ้นเรือได้เลยค่ะ
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
เนื่องจากเรามาถึงท่าเรือก่อนเวลาเรือออก เลยนั่งรอข้างในค่ะ รอพนักงานเรียกขึ้นเรือ แต่ถ้าไปนั่งโซนนอกก็จะได้ยินพนักงานเรียกขึ้นเรือชัดเจนค่ะ แต่ที่นั่งภายนอกไม่พอค่ะ อาจจะต้องยืนหรือนั่งกับพื้น ภายในท่าเรือมีห้องน้ำให้เข้า มีจุดคอยให้บริการ นักท่องเที่ยวนะค่ะ ท่าเรือค่อนข้างกว้างและมีขนาดใหญ่ค่ะ พอใกล้เวลาเราก็เดินออกเตรียมตัวไปขึ้นเรือค่ะ พนักงานจะเรียกเราลงเรือตามบัตรคิว ที่เราได้รับตั้งแต่แรกตอนเชคอินค่ะ ไม่ได้ให้แย่งกันลงเรือนะค่ะ เค้าค่อนข้างเข้มงวดค่ะ ส่วนกระเป๋าเราไม่ต้องถือลงเรือค่ะ พนักงานจะเอาลงเรือให้ค่ะ รอไปรับทีเดียวก่อนเข้าเกาะหลีเป๊ะค่ะ
เราเลือกนั่งเรือรอบ 11.30น. ค่ะ เรือรอบนี้จะแวะ ตรุเตา และเกาะไข่ก่อนเข้าเกาะหลีเป๊ะค่ะ ตอนนี้เรามาถึงเกาะตรุเตาเป็นที่แรกค่ะ พนักงงานจะปล่อยให้เข้าอุทยานตามอัธยาศัยค่ะ ประมาณ30 นาที จากนั้นจะเรียกขึ้นเรือต่อไปเกาะไข่ค่ะ
ก่อนเข้า อุทยานแห่งชาติตรุเตา จะมีค่าธรรมเนียมการเข้าอุทยานนะค่ะ คนล่ะ 40 บาทค่ะ
หลังจากชำระค่าธรรมการเข้าอุทยานเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้ตั๋วเข้าอุทยานค่ะ โปรดรักษาให้ดีนะค่ะ เก็บไว้ตั้งแต่วันไปถึงวันกลับค่ะ เพราะมีผลต่อการเข้าเกาะและการไปดำน้ำค่ะ ถ้ามีตั๋วแล้วเราจะไม่ต้องชำระอีกค่ะ
ภาพบรรยากาศอุทยานตรุเตาค่ะ
น้ำทะเล ที่นี่สีฟ้าครามค่ะ ถ้าเปรียบเทียบความสวยงามกับทะเลอื่นเราก็ถือว่าสวยในระดับนึงค่ะ จากนั้นเราจะนั่งเรือต่อไปที่เกาะไข่กันค่ะ นั่งเรือประมาณ25 นาทีค่ะ เมื่อนักท่องเที่ยวขึ้นเรือพนักงานจะให้สวมชูชีพทุกคนนะค่ะ ไม่งั้นเรือจะไม่วิ่งค่ะ
ถึงแล้วค่ะเกาะไข่ เห็นครั้งแรก ว้าว เลย น้ำะเลอะไรสวยขนาดนี้ ใส สุดๆ วิ่งลงจากเรือแทบไม่ทันคนอื่น นักท่องเที่ยวต่างชาติกระโดนเล่นน้ำซะเพลินเลย สวยแบบบรรยายไม่ถูกจริงๆค่ะ
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
พื้นทรายจะขาวละเอียดมากค่ะ น้ำทะเลใส รู้สึกประทับใจมากๆค่ะ ไม่เสียงแรงที่เรานั่งเรือมาไกลค่ะ
เกาะไข่จะมีซุ้มประตูหิน หรือที่เรียกกันว่า ซุ้มรักนิรันดร์ ( Lover gate ) ด้านข้างจะมีแผ่นป้ายสลักข้อมความใจความว่า ประตูหิน โค้ง ตรุเตา สตูล จุดเพิ่มพูลตำนานรักหนุ่มสาว แดนประเดิมเสริมรักให้ยืนยาว สองเราก้าวสู้ประตูรัก บางคนก็มีความเชื่อว่า หากพาคู่รักมาลอดซุ้มประตูนี้จะทำให้ความรักยืนยาว อิจฉาคนมีแฟนเนาะ อิอิ
และแล้วเราก็มาถึงเกาะหลีเป๊ะ ค่ะ ด้านหน้าคือเกาะหลีเป๊ะ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ โป๊ะ กลางทะเล เรือจะมาจอดเทียบโป๊ะกลางทะเลให้ผู้โดยสารลง ที่โป๊ะ เราจะต้องเสียค่าใช้บริการโป๊ะ 20 บาทต่อ ท่านค่ะ เมื่อรอรับกระเป๋าเสร็จแล้ว ก็มาซื้อตั๋วเรือหางยาวค่ะ
ค่าตั๋วเรือหางยาว ราคา 50 บาทต่อท่าน ต่อเที่ยว ค่ะ เค้าเรียกว่า (taxi boat ) เรือทุกลำไม่สามารถไปจอดเทียบหน้าหาดได้ค่ะ เนื่องจากทำลายแนวปะการังฉะนั้นเรือจะมาจอดเทียบที่โป๊ะกลางทะเล ส่วนการเดินทางไปรีสอร์ท ถ้ารีสอร์ทไหนไม่ได้อยู่หน้าหาด จะต้องนั่งรถต่อเข้าไปที่ตัวรีสอร์ท อาจจะต้องถามรีสอร์ทว่ามีบริการรถมารับหรือไม่ ถ้าไม่มีต้องนั่งรถ สามล้อเครื่อง ให้เค้าไปส่งที่รีสอร์ทค่ะ ราคา 50 บาทต่อท่านค่ะ
นี้คือรีสอร์ทที่พวกเราได้จองไว้ค่ะ Mountain resort บรรยากาศดี แถมพนักงานบริการยอดเยี่ยมมากค่ะ
บรรยากาศโดยรอบของ Mountain resort เป็นรีสอร์ทที่บรรยากาศดี วิวโดยรอบสวยงาม
ห้องพักของเรา นอกระเบียงสามารถมองเห็น วิว ทะเลรอบรีสอร์ทได้ทั้งหมดค่ะ
มื้อเที่ยง เดินทางกันมาเหนื่อย ต้องอาหารรองท้องแบบนักๆเลยทีเดียว
หน้าหาด Mountain resort พวกเรามานั่งรับลมเย็นๆ กันค่ะ บรรยากาศยามค่ำที่นี้เยี่ยมมากค่ะ
บรรยากาศยามเย็น ที่หน้าหาดของรีสอร์ทค่ะ อากาศดีสุดๆ
แสงสุดท้ายของวัน แด่มิตรภาพของเรา
ช่วงเย็นของวันแรก พนักงานที่รีสอร์ท บอกว่าที่เกาะมีถนนคนเดิน ด้วย ชอบมากเลย เป็นคนที่ชอบ เดินดูของ มีของกินเยอะแยะเต็ม ไปหมด ร้านอาหรก็เยอะ ราคาอาจจะสูงสักหน่อย เป็นธรรมดาของเกาะค่ะ ถนนคนเดินเปิด 18.00 - 24.00 น. เปิดทุกวันนะค่ะ
ร้านพิซซ่านะค่ะ ถาดนึง สองร้อย กว่าบาท ถือว่าไม่แพง
หน้าหาดพัทยามี การแสดงโชว์ ควงกระบองไฟ อันนี้ชมฟรีนะค่ะ ไม่เสียตัง หน้าหาดพัทยา ช่วงตอนเย็นคนจะเดินเล่นหย้าหาด ค่อนข้างเยอะค่ะ มีร้านอาหารเยอะ มีบาร์ นั่งจิบ ค็อกเทล ริมหาด ชิวๆค่ะ
ร้าน Art beach club หน้าหาดพัทยาค่ะ ชอบมากค่ะร้านนี้บรรยากาศดีเยี่ยม ท่านใดสนใจแวะมาได้นะค่ะ หลังจากนั่งชิวๆ เราก็ได้เวลากับรีสอร์ทค่ะ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกดำน้ำแต่เช้า
มื้อเช้าเบาๆก่อนไปดำน้ำค่ะ
กิจกรรมที่สำคัญ คงหนีไม่พ้น การดำน้ำค่ะ ปะการังที่สวยงาม รอคุณอยู่ ลุยสิค่ะ ไปกันเลย
น้ำทะเลใส จน บรรยายความสวย ไม่หมดเลยทีเดียว
เกาะหินซ้อน เป็นหนึ่งในหมู่เกาะอาดังราวี ในแถบนี้มีประมาณ 6 เกาะที่ใกล้เคียงกันค่ะ เราเลือกลงที่นี่เพราะจะได้ถ่ายรูปสวยๆ ค่ะ
กำลังจะลงดำน้ำบอกเลยพร้อม มากๆๆๆๆๆ
คุณจ๊ะ พร้อมยิ่งกว่า
บรรยากาศสวยเกินบรรยาย
แดดค่อนข้างแรงนะค่ะ แนะนำครีมกันแดด ทาให้พร้อมเลยค่ะ ทามันหลายๆรอบเลย อิอิ
เราแวะพักเที่ยงกินข้าวที่ เกาะราวี ค่ะ ซึ่งวันที่เราไป มีชาวบ้านที่เกาะ มากางเต้นท์ พักผ่อนหน้าหาดด้วย อย่างที่เห็น เด็กๆเล่นน้ำกันสนุก เราเลยถ่ายภาพเก็บไว้ เกาะนี้มีน้ำตก และหมูป่าด้วยนะค่ะ ถือว่าทรัพยากร ยังอุดมสมบูรณื มากเลยทีเดียว
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
เด็กๆชาวเกาะ บนเกาะมีความอุดมสมบูรณ์มาก มีทั้งน้ำตก และหมูป่า
ในเรือเรามีขนมเยอะ เลยแบ่งให้เด็กๆทานด้วยค่ะ เด็กๆที่นี่น่ารัก
ร่องน้ำจาบัง เรามาดำน้ำที่นี้กันค่ะ จะเจอกรุ๊ปทัวร์อื่นที่มาดำน้ำด้วยนะค่ะ ขึ้นเรือเกือบไม่ถูกลำเลยทีเดียว
เกาะหินงาม เกาะสุดท้ายของทริปนี้ มีความเชื่อกันว่า ถ้าซ้อนหินได้ชั้นเยอะๆ แล้วอธิษฐานจะสมความปราถนา แต่ในปัจจุบัน ทางเกาะไม่อนุญาตให้ซ้อนหินค่ะ เพราะมีนักท่องเที่ยวซ้อนหิน แล้วไม่นำหินกลับที่เดิมปรากฏว่า มีคลื่นซัดมากระทบหินที่ซ้อนไว้ ทำให้หินเหล่านั้น พังลง และ แตก เกิดความเสียหายตามมา
ภาระกิจของเราวันนี้ สิ้นสุดลงพร้อม กับเดินทางกลับรีสอร์ทด้วยเรือหางยาว และไกด์ประจำกรุ๊ปเรา ช่วงเย็นเราจะไปถนนคนเดินกันอีกครั้งค่ะ
มื้อเย็นแอบหนี เพื่อนมากินร้าน king crab restuarant ราคาอาหารถือว่าไม่เบาเลยทีเดียว
หอยนางรม อบชีส ราคาจานล่ะ ประมาณ 200 บาทค่ะ
ต้มยำทะเล รสชาติ ถือว่าอร่อยใช้ได้เลยค่ะ
บาร์บีคิว ไม้ล่ะ 150 บาท รสชาติ พอใช้ได้
ขากลับรีสอร์ท เราก็ดินเล่นถนนคนเดินก่อนกลับ บนเกาะโรตี ถือว่าเป็นอาหารยอดฮิต มีเกือบทุกเกาะเลยค่ะ เวลาของความสุขชั่งผ่านไปเร็วเหลือเกิน พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับแล้ว วันนี้ต้องรีบเข้านอนค่ะ
เก็บภาพสวยๆก่อนกลับกันนิดนึงค่ะ
กลับแล้วนะค่ะ พี่ไกด์ ถ่ายรูปให้ค่ะ ประทับใจไม่รู้ลืม หลีเป๊ะ สวรรค์แห่งอันดามัน แล้วเราจะกลับมาอีก
ขากลับเราต้องมาขึ้นเรือที่หน้าหาดพัทยา นั่งเรือหางยาวคนล่ะ 50 บาทเพื่อไปที่โป๊ะกลางทะเล ค่ะเรือเฟอร์รี่จอดรอเราที่นั่นค่ะ
วันนี้เราเดินทางกลับโดย เรือหลีเป๊ะเฟอร์รี่ค่ะ เรือจะจอดเทียบที่โป๊ะกลางทะเลค่ะ เรือหางยาวที่เรานั่งมาจะจอดเทียบโป๊ะค่ะ
กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎ 0829400005
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th
ก่อนขึ้นเรือ พนักงานจะขอตรวจตั๋วเราก่อนขึ้นเรือค่ะ ภาพภายในเรือค่ะ เราสามารถเลือกที่นั่งภายในเรือได้ตามสะดวกค่ะ ภายในเรือมีห้องน้ำด้วยนะค่ะ
เรือหลีเป๊ะเฟอร์รี่ ที่พวกเรานั่งกลับมายังท่าเรือปากบารา ใช้เวลาวิ่ง 1ชม. 30 นาที ค่ะ เราก็รอรับกระเป๋า เสร็จแล้วให้เดินมาที่ lobby เรือเพื่อรถตู้กลับไปยังสนามบินค่ะ แต่ไฟล์บินที่เราจองไว้ เวลา 14.55 น. ขึ้นเครื่องที่สนามบินหาดใหญ่ รถวิ่งจากท่าเรือปากบารา ไปสนามบินตรังใช้เวลา 2 ชม.ค่ะ
รถตู้มาส่งเราที่สนามบินค่ะ เตรียมตัวกลับไปใช้ชีวิตคนเมืองต่อ แล้วเราจะกลับมาอีก หลีเป๊ะ ประทับใจไม่รู้ลืม
หมายเหตุ : การรีวิวการเดินทางในครั้งนี้จัดทำเพื่อประกอบความเข้าใจในการเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ รอบรถและรอบเรือ สามารถตรวจสอบได้ที่ www.ferryadvice.com ราคาเรือในแต่ล่ะรอบอาจมีการเปลี่ยนแปลงโปรดตรวจสอบราคาในหน้าเว็บไซต์เป็นหลัก รถและเรือที่ลูกค้าได้ทำการจอง หากไม่ทันในรอบที่จอง สามารถเลื่อนรอบได้ หรือ เลื่อนวันเดินทางได้ แต่สงวนสิทธิ์การคืนเงินทุกรณี กรณีในวันที่เดินทางมีคลื่นลมแรง ขอให้อยู่ในดุลพินิจ ของกัปตัลเรือ ว่าเวลาเดินเรือสามารถออกได้ตามปกติหรือไม่ หรือ อาจจะออกช้ากว่าเวลาที่กำหนดในตารางการเดินเรือ
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่