เที่ยวหน้าฝนบนเกาะกูด 3 วัน 2 คืน
- หน้าแรก
- /
- รีวิวและ อัพเดตการท่องเที่ยว
- / เที่ยวหน้าฝนบนเกาะกูด 3 วัน 2 คืน
เที่ยวหน้าฝนบนเกาะกูด 3 วัน 2 คืน
แม้ช่วงนี้ฝนตกหนักบ้างบางวัน แต่บนเกาะกูดก็ยังสามารถไปเที่ยวได้ตามปกตินะครับ แอดมินตัดสินใจแพ็กกระเป๋าเดินทางไปเกาะกูดในช่วงฝนตก ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันว่า แม้ฝนตกแต่เกาะกูดก็ยัง Good เหมือนเดิมครับ
DAY 1
ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน แอดมินไม่อยากขับรถไปเที่ยวไกลๆ ทริปนี้เลยตัดสินใจเดินทางไปกับบริษัทบุญศิริเรือเร็ว ทางบริษัทมีบริการตั๋วรถ+เรือไปกลับเกาะกูด รถที่เดินทางจะเป็นรถบัสประมาณ 40 ที่นั่ง ขึ้นจากออฟฟิศบุญศิริ ถนนข้าวสาร ซอยตานี รถออกเดินทางตอนตี5 ต้องมาเช็คอินก่อนเวลารถออกประมาณ 1 ชั่วโมงครับ แม้ฝนตกเพื่อนๆ ไม่ต้องห่วง เพราะคนขับชำนาญเส้นทาง ขับรถดีมาก ถึงที่หมายปลอดภัยแน่นอน
ประมาณ 10 โมง รถถึงออฟฟิศบุญศิริที่ท่าเรือแหลมศอก จัดหวัดตราด บริเวณออฟิศบุญศิริสาขาแหลมศอกจะมีที่นั่งพัก ห้องน้ำและร้านอาหาร สามารถซื้อข้าว น้ำ หรือขนมทานรองท้องก่อนเดินทางต่อได้เลยครับ
สำหรับผู้เดินทางกับบริษัทบุญศิริ ทางบริษัทจะเตรียมรถลากไว้หลายคันเพื่อขนสัมภาระและส่งผู้โดยสารไปขึ้นเรือครับ เมื่อใกล้ถึงเวลาเจ้าหน้าที่จะประกาศเรียก ไปทันแน่นอนไม่ต้องกลัวว่าจะตกเรือครับ
วันเดินทางถึงฝนจะตกแต่คนก็เยอะเหมือนเดิม แอดมินขึ้นเรือของบุญศิริเป็นเรือเฟอรี่คาตามารัน สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 300 คน เพราะเป็นเรือลำใหญ่แม้ฝนตกเรือก็สามารถวิ่งได้ตามปกติครับ อาจจะมีโคลงเคลงบ้างเล็กน้อย ใครเมาเรือแนะนำให้กินยาแก้เมาเรือไว้ก็ดีนะครับ วันที่แอดมินเดินทางมีฝนตกแต่เพราะเป็นเรือเฟอรี่แบบเร็วนั่งจากท่าเรือแหลมศอก จังหวัดตราดประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงเกาะกูดแล้วครับ
เมื่อถึงเกาะ ข้างบนเกาะมีบริการรถรับส่งระหว่างท่าเรือกับที่พักคอยให้บริการอยู่ครับ เราสามารถเดินไปบอกชื่อรีสอร์ทที่พักกับเจ้าหน้าที่ เขาจะจัดรถไปส่งให้ครับ ไม่เสียค่าใช่จ่ายด้วย แต่ตอนนั่งต้องระวังนะครับ เพราะบนเกาะทางโค้งเยอะ เวลานั่งต้องหาที่จับด้วยนะครับ
แอดมินอยากสัมผัสธรรมชาติช่วงหน้าฝนบนเกาะกูด เราพักกันที่ Jungle resort ที่พักอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่ละห้องพักตั้งห่างกัน ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว เหมาะกับการพักผ่อน คนไหนที่ชอบธรรมชาติ ชอบต้นไม้ ถูกใจที่นี่แน่นอนครับ ที่พักห่างจากทะเลเล็กน้อย แต่สามารถขับมอเตอร์ไซด์ไปได้ครับ พอไปถึงที่พัก พนักงานตอนรับดีมากครับ กางร่มมารับทุกคนที่พักที่นี่ด้วย พนักงานจะเสิร์ฟ Welcome drink เป็นน้ำมะนาวเย็นๆ ชื่นใจก่อนที่จะให้เช็คอินครับ เมื่อเช็คอินและได้กุญแจห้อง พี่พนักงานจะถือกระเป๋าและพาเราไปที่ห้องพัก
ห้องพักจะเป็นเหมือนบ้านไม้หลังเล็กๆ มีแอร์ ที่นอน ผ้าขนหนู wifi และมีห้องน้ำในตัว มีบริการเช่ามอเตอร์ไซด์ครับ ตอนฝนตกที่นี่บรรยากาศดีมากครับ เพราะต้นไม้เยอะอากาศจึงเย็นสบายครับ
ช่วงตอนเย็นฝนหยุดตก แอดมินก็รีบออกไปหาของอร่อยๆ กินกันทันที มื้อแรกบนเกาะกูดเราเลือกร้าน Hidden Gem by Monkey bar Koh Kood ตั้งอยู่ Siam Breach resort ที่นี่มีเมนูให้เลือกเยอะมาก ราคาก็ไม่แพงครับ ติดกับทะเล สามารถกินข้าวเย็นชมวิวทะเลสวยๆ ได้เลยครับ ราคาอาหารมื้อนี้รวมแล้วไม่ถึง 1,000 บาทครับ บนเกาะไม่ค่อยมีตู้ ATM แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ เพราะร้านอาหารหรือร้านขายของชำเล็กๆ บนเกาะสามารถจ่ายผ่าน Mobile banking ได้ครับ
DAY 2
วันแรกฝนตกทำให้ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน แต่วันที่ 2 อากาศดีไม่มีฝน แอดมินตั้งใจว่าจะไปหลายที่ แต่ก่อนอื่นต้องเติมพลังกันก่อนครับ เช้านี้เราทานข้าวที่รีสอร์ทที่แอดมินพัก พนักงานจะเตรียมอาหารเป็น Breakfast ไว้ มีทั้งไข่ดาว สลัดผัก ขนมปังปิ้ง และอีกหลายอย่าง เราสามารถเลือกได้เลยครับ อาหารเช้าให้บริการเวลาตั้งแต่ 07.00 – 10.30 น.
หลังจากทานข้าวเช้าเรียบร้อยก็ได้เวลาเที่ยวครับ เช้าๆ แบบนี้แอดตั้งใจจะไปถ่ายรูปที่หาดคลองจ้าว เก็บบรรยากาศมาอวดทุกคนครับ แม้เมื่อวานฝนพึ่งตกไปแต่น้ำทะเลก็ยังสีสวยครับ หลังจากถ่ายรูปเสร็จ แอดมินมาแวะพักหาเครื่องดื่มเย็นๆ ที่คาเฟ่ SKUGGA ESTATE ร้านอยู่ใกล้กับ Tolani resort เลยครับ แอดมินสั่งเมนูช็อกโกแลตมัทฉะ อร่อยมากครับ ไม่หวานมาก หอมชาเขียวสุดๆ ครับ
นั่งพักหายเหนื่อยก็ได้เวลาทานข้าวเที่ยงพอดี ไปกันที่ร้านอาหาร Noochy Seafood แถวๆ อ่าวใหญ่ ขับรถจาก SKUGGA ESTATE ไปประมาณ 17 km. ทางไปร้านลำบากนิดหน่อยครับเพราะต้องขับรถขึ้นลงเขา ร้านอาหารเป็นเหมือนหมู่บ้านชาวประมงครับ ทำให้อาหารทะเลสดใหม่มากๆ แอดมินแนะนำถ้าทุกคนมาร้านนี้ต้องสั่งเมนู “หมึกน้ำดำ” ครับ รสชาติดีมาก อาหารทะเลสดใหม่แต่ไม่มีกลิ่นคาว แอดมินสั่งมา 4 อย่างทานกับแฟนไม่หมดครับ แต่สามารถห่อกลับที่พักได้ ราคาอาหารมื้อนี้ 1,055 บาท คุ้มมากๆ
ทานข้าวเที่ยงอิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไป “น้ำตกคลองจ้าว” น้ำตกบนเกาะกูด ตอนไปน้ำตก น้ำมันรถใกล้หมด บนเกาะมีตู้เติมน้ำมันแบบหยอดเหรียญตั้งอยู่เป็นระยะครับ หรือร้านขายของชำบางร้านจะมีน้ำมันขาย ราคาประมาณ 40 บาท/ลิตร เมื่อถึงน้ำตก สามารถขับมอเตอร์ไซด์ไปจอดไว้ด้านหน้า แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 200 เมตรก็ถึงน้ำตกครับ แอดมินไปช่วงหน้าฝน น้ำในน้ำตกจึงสูงและไหลแรงมาก ถ้าเพื่อนคนไหนไปตอนช่วงนี้เดินระวังนะ เพราะพื้นลื่นมาก แต่น้ำใสและเย็นสบายมากครับ
เดินเล่นที่น้ำตกเสร็จก็ไปหาของหวานชื่นใจทานให้หายร้อนกันต่อ เราเลือกร้าน Gathi Café ตั้งอยู่ที่ Shantaa Koh Kood คาเฟ่ติดริมทะเล เมนูของหวานมีให้เลือกเยอะมาก แอดมินสั่งมังกี้ฟาเฟ่, เค้กช็อกโกแลตมอคค่าฟลัดกับไอศกรีมวนิลา และชาเขียวปั่น วิปครีมของร้านนี้มีลักษณะเฉพาะร้าน คือกลิ่นกะทิหอมๆ เวลาทานแล้วได้รสชาติกะทิอีกด้วย แต่ละเมนูได้เยอะแยะมาก ถ้ากินคนเดียวไม่หมดแน่ๆ ราคารวมมื้อนี้ 550 บาท คุ้มมากๆ ของหวานอร่อยๆ วิวทะเลก็สวยครับ
มื้อเย็นวันที่ 2 แอดมินพาไป Dinner ที่ The Desk bar ร้านอาหารใน Koh Kood resort ร้านมีทั้งเมนูแนวตะวันออกและตะวันตกให้เลือกมากมาย แอดมินลองสั่งพิซซ่ามาทาน มี 8 ชิ้นถาดใหญ่มากครับ ทานไม่หมดสามารถห่อกลับที่พักได้เหมือนกันครับ ราคามื้อนี้ประมาณ 1,000 บาท เรามาตอน 6 โมงเย็นบนเกาะมืดเร็วมาก เวลาขับรถต้องระวังด้วยนะครับ ทางเข้าร้านค่อนข้างลึก ถนนเป็นดินสลับคอนกรีท และบนเกาะไม่ค่อยมีไฟทางครับ
DAY 3
วันสุดท้ายฝนตกหนักเพราะมีพายุเข้า แอดมินเลยออกไปเที่ยวที่ไหนก่อนกลับบ้านไม่ได้เลยครับ น่าเสียดาย ขากลับเรากลับเรือของบุญศิริเหมือนเดิมครับ เราขึ้นเรือกลับรอบ 12.00 น. ต้องเช็คเอาท์ตอน 11.00 น. เพื่อให้ทันรถที่จะมารับเราหน้ารีสอร์ทเพื่อไปส่งท่าเรือ รถที่มารับจะเป็นรถสองแถวแบบเดียวกับที่มาส่งเรา ถ้าไม่ทันรอบรถรับอาจตกเรือได้นะครับ
นั่งเรือกลับอีกประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อถึงท่าเทียบเรือจะมีรถลากของบริษัทบุญศิริมารอรับผู้โดยสารขากลับเพื่อไปส่งที่ออฟฟิศครับ แอดมินจองตั๋วขากลับเป็นเรือ+รถบัสกลับกรุงเทพฯ รถจะออกเดินทางประมาณ 14.00 น. ก่อนเวลารถออก 10 นาที จะมีเจ้าหน้าประกาศเรียกให้ขึ้นรถกลับครับ ขากลับรถจะไปส่ง 2 ที่ เราสามารถเลือกได้ว่าจะลงที่ Airport rail link ลาดกระบัง หรือจะลงที่ออฟฟิศบุญศิริถนนข้าวสารก็ได้ครับ
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่