
วิธีการเดินทางไปเกาะเต่า ฉบับสมบูรณ์ สอบถาม0962284000
การเดินทางไปเกาะเต่า Update 2025 (อัพเดต2568) เกาะเต่า เป็นเกาะที่อยู่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี แต่...
ท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล
ท่าเรือปากบารา (Pak Bara Pier) คือประตูสู่สวรรค์ทะเลอันดามันทางใต้ของไทย เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางไปยังเกาะในฝันอย่าง เกาะหลีเป๊ะ เกาะอาดัง เกาะราวี และหมู่เกาะในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา หากคุณกำลังวางแผนเที่ยวทะเลใต้ บทความนี้จะบอกทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับท่าเรือปากบารา ตั้งแต่ตารางเรือ ราคา วิธีเดินทาง ไปจนถึงเคล็ดลับเด็ดๆ ที่จะทำให้ทริปของคุณราบรื่นที่สุด
ท่าเรือปากบารา ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล เป็นท่าเรือหลักในการเดินทางไปยังหมู่เกาะในทะเลอันดามันฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไทย เป็นท่าเรือที่ทันสมัย มีอาคารผู้โดยสารขนาดใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
จุดเด่นสำคัญ:
เรือสปีดโบ๊ท (Speed Boat):
ท่าเรือปากบารา-เกาะหลีเป๊ะ
|
||||
ต้นทาง | เวลาออก | ระยะเวลาเดินเรือ | ปลายทาง | ค่าบริการ |
ท่าเรือปากบารา |
09.30 น. | 1.30 ชั่วโมง | เกาะหลีเป๊ะ |
550 บาท
|
ท่าเรือปากบารา | 11.30 น. | 1.30 ชั่วโมง | เกาะหลีเป๊ะ |
550 บาท
|
ท่าเรือปากบารา | 13.30 น. | 1.30 ชั่วโมง | เกาะหลีเป๊ะ |
550 บาท
|
เกาะหลีเป๊ะ - ท่าเรือปากบารา
|
||||
ต้นทาง | เวลาออก | ระยะเวลาเดินเรือ | ปลายทาง | ค่าบริการ |
เกาะหลีเป๊ะ | 09.30 น. | 1.30 ชั่วโมง | ท่าเรือปากบารา |
550 บาท |
เกาะหลีเป๊ะ | 11.30 น. | 1.30 ชั่วโมง | ท่าเรือปากบารา | 550 บาท |
เกาะหลีเป๊ะ | 13.30 น. | 1.30 ชั่วโมง | ท่าเรือปากบารา | 550 บาท |
เรือสปีดโบ๊ท (Speed Boat):
เที่ยวเดียว (One Way):
ไป-กลับ (Round Trip):
เว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ:
ข้อดี:
เบอร์ติดต่อท่าเรือปากบารา: 0962284000
เบอร์บริษัทเดินเรือยอดนิยม:
เหมาะกับ:
หลายรีสอร์ทมีแพ็คเกจรวมที่พัก + เรือ ราคาดีกว่าจองแยก
ที่: เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วที่ท่าเรือปากบารา
ข้อควรระวัง:
จากสนามบินหาดใหญ่ - เกาะหลีเป๊ะ:
จากตัวเมืองหาดใหญ่:
ที่อยู่: ท่าเรือปากบารา หมู่ที่ 2 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล 91110
พิกัด GPS: 6.7745° N, 99.7297° E
Google Maps: ค้นหา "ท่าเรือปากบารา" หรือ "Pak Bara Pier"
ระยะทาง: 150 กม.
ระยะเวลา: 2-2.5 ชั่วโมง
ตัวเลือก 1: รถตู้แพ็คเกจ (แนะนำ)
ตัวเลือก 2: รถตู้สาธารณะ
ตัวเลือก 3: แท็กซี่เหมา
ตัวเลือก 4: เช่ารถขับเอง
ระยะทาง: 140 กม.
ระยะเวลา: 2 ชั่วโมง
รถตู้:
แท็กซี่:
ตัวเลือก 1: เครื่องบิน → หาดใหญ่ → รถตู้
ตัวเลือก 2: รถบัส
ตัวเลือก 3: รถยนต์ส่วนตัว
จากตรัง:
จากกระบี่:
จากภูเก็ต:
ลานจอดฟรี:
ที่จอดรถมีหลังคา/บริการฝากรถ:
ท่าเรือปากบารามีอาคารผู้โดยสาร 3 ชั้น ทันสมัย สะอาด มีพื้นที่กว้างขวาง
ชั้น 1:
ชั้น 2:
ชั้น 3:
✅ Wi-Fi ฟรี - เชื่อมต่อได้ทั่วทั้งท่าเรือ
✅ ปลั๊กไฟชาร์จมือถือ - มีจุดชาร์จหลายจุด
✅ ห้องน้ำสะอาด - มาตรฐาน มีพนักงานดูแล
✅ ที่จอดรถฟรี - กว้างขวาง เพียงพอ
✅ ร้านอาหาร - หลากหลาย ราคาไม่แพงเกินไป
✅ ร้านขายของ - ขนม เครื่องดื่ม ของใช้
✅ จุดรับรองท่องเที่ยว - มีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูล
✅ ที่เก็บสัมภาระ - บริการรับฝากกระเป๋า (มีค่าบริการ)
✅ รถสองแถวรับส่ง - มีบริการไปที่พักในละงู สตูล
✅ ร้านขายยา - กรณีฉุกเฉิน
✅ จุดปฐมพยาบาล - มีเจ้าหน้าที่ประจำ
ร้านอาหารทะเล:
ร้านก๋วยเตี๋ยว/ข้าว:
7-Eleven:
คาเฟ่:
หลายคนอาจคิดว่าท่าเรือปากบาราเป็นท่าเรือเล็กๆ ท้องถิ่นธรรมดา แต่พอมาถึงจะต้องประหลาดใจ เพราะนี่คือท่าเรือที่ทันสมัยมาก อาคารผู้โดยสาร 3 ชั้นสีขาวสะอาดตา มีทางเดินที่กว้างขวาง แอร์เย็นฉ่ำ บรรยากาศเหมือนสนามบินเลยก็ว่าได้
เมื่อเดินเข้ามาภายใน คุณจะเห็นเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วเรือหลายบริษัทเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ มีป้ายบอกชัดเจน ง่ายต่อการหาข้อมูล พนักงานแต่ละเคาน์เตอร์ต่างให้บริการด้วยรอยยิ้มและความเป็นมืออาชีพ
โซนเช็คอิน: เคาน์เตอร์แต่ละบริษัทมีป้ายชัดเจน มีคิวเป็นระเบียบ เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วอย่างละเอียด แลกบัตรขึ้นเรือ และแจ้งข้อมูลเรือ ประกาศเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
โซนรอขึ้นเรือ: มีที่นั่งเพียงพอ ประมาณ 500 ที่นั่ง มีพัดลมและแอร์บางโซน สะอาด มีจอทีวีแสดงข้อมูลเรือ Wi-Fi ฟรีเชื่อมต่อได้ดี เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนรอเรือ
โซนร้านอาหาร: มีหลายร้าน ทั้งอาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว และเครื่องดื่ม ราคาไม่แพงเกินไป อาหารอร่อยดี โดยเฉพาะอาหารใต้ที่มีรสชาติจัดจ้าน
โซนห้องน้ำ: ห้องน้ำค่อนข้างสะอาด มีพนักงานดูแลประจำ เก็บค่าบริการ 10 บาท/คน มีทั้งห้องน้ำแบบนั่งและแบบนั่งยอง
1. มาถึงท่าเรือ (ก่อนเวลา 1 ชั่วโมง): จอดรถ หาบกระเป๋าเข้าอาคาร บรรยากาศคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
2. ซื้อตั๋ว/เช็คอิน (30 นาทีก่อนเรือออก): เดินไปที่เคาน์เตอร์บริษัทเรือที่จองไว้ แสดงหลักฐาน (E-ticket หรือบัตรประชาชน) เจ้าหน้าที่จะแลกเป็นบัตรขึ้นเรือ และติดสติกเกอร์สัมภาระ
3. ชำระค่าอุทยาน: หลังเช็คอิน ต้องไปชำระค่าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ที่จุดเก็บเงินแยก (ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท) ได้สติกเกอร์ติดที่อก แสดงว่าชำระแล้ว
4. รอขึ้นเรือ: นั่งรอในโซนรอเรือ มีประกาศเรียกตามหมายเลขเรือ ฟังประกาศให้ดี บางรอบมีหลายเรือออกพร้อมกัน
5. ขึ้นเรือ: เมื่อถึงเวลา เจ้าหน้าที่จะนำทางให้เดินออกท่า กระเป๋าใหญ่ให้พนักงานยกขึ้นเรือ ถือของมีค่าติดตัวเอง เดินขึ้นบันไดเรือ หาที่นั่งตามต้องการ
6. ออกเดินทาง: เรือออกตรงเวลา หรือช้าไม่เกิน 10-15 นาที แล่นผ่านทะเลอันดามัน ชมวิวเกาะสวยๆ ระหว่างทาง
High Season (พฤศจิกายน - เมษายน):
Low Season (พฤษภาคม - ตุลาคม):
✅ ท่าเรือทันสมัย - อาคารใหม่ สะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ
✅ พนักงานบริการดี - ยิ้มแย้ม ช่วยเหลือดี ให้ข้อมูลชัดเจน
✅ เรือหลายบริษัท - เลือกได้ตามงบและความต้องการ
✅ มีที่จอดรถฟรี - กว้างขวาง เพียงพอ
✅ ร้านอาหารเยอะ - เลือกได้หลากหลาย ราคาไม่แพงมาก
✅ Wi-Fi ฟรี - เชื่อมต่อได้ดี เร็วพอใช้
✅ ห้องน้ำสะอาด - มีพนักงานดูแล
✅ ปลอดภัย - มีรปภ. CCTV ครบ
✅ บรรยากาศดี - วิวทะเลสวย ถ่ายรูปได้มุมเยอะ
⚠️ ช่วงไฮซีซันคนเยอะมาก - บางวันแออัด ที่นั่งรอไม่พอ
⚠️ ห้องน้ำเก็บเงิน - 10 บาท/ครั้ง อาจไม่เหมาะ
⚠️ ร้านอาหารราคาสูงกว่าปกติ - เข้าใจได้ว่าในท่าเรือ แต่บางร้านแพงไป
⚠️ ประกาศเรียกขึ้นเรือ - บางครั้งไม่ชัด ควรมีจอแสดงข้อมูลเพิ่ม
⚠️ ที่นั่งรอเรือ - ช่วงคนเยอะมักไม่พอ
⚠️ จุดเก็บค่าอุทยาน - บางครั้งคิวยาว ใช้เวลานาน
⚠️ พื้นที่ขึ้นเรือ - มักแออัดและร้อนช่วงไฮซีซัน
แนะนำมาก่อน 1-1.5 ชั่วโมง:
ถ้ามาสายเกินไป:
ช่วงไฮซีซัน (พฤศจิกายน - เมษายน):
ช่วงโลว์ซีซัน:
ช่วงมรสุม (พฤษภาคม - ตุลาคม):
ติดตามพยากรณ์อากาศ:
เอกสารที่ต้องมี:
เก็บเอกสารให้ปลอดภัย:
ถ้าเมาเรือง่าย:
ถ้าอยากชมวิวถ่ายรูป:
ถ้าต้องการความสะดวก:
กระเป๋าใหญ่:
กระเป๋าใส่ติดตัว:
สิ่งที่ควรเตรียม:
หลังเช็คอินเรือแล้ว ต้องไปชำระค่าเข้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่เคาน์เตอร์แยก ไม่งั้นจะขึ้นเรือไม่ได้ เก็บสติกเกอร์และใบเสร็จไว้ดีๆ อาจต้องแสดงบนเกาะ
ถอนเงินสดที่ท่าเรือ:
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ:
เกาะหลีเป๊ะและหมู่เกาะตะรุเตาเป็นอุทยานแห่งชาติ ช่วยกันรักษาความสะอาด:
ท่าเรือปากบารา ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ห่างจากสนามบินหาดใหญ่ประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-2.5 ชั่วโมง
ช่วง High Season (พฤศจิกายน - เมษายน) มีเรือออกวันละ 4 รอบ คือ 09:30, 11:30, 13:30 และ 15:30 น. ช่วง Low Season มีเพียง 2 รอบ คือ 11:30 และ 14:30 น. ตารางอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ
สปีดโบ๊ทราคา 700-800 บาท (เที่ยวเดียว) หรือ 1,300-1,500 บาท (ไป-กลับ) เฟอร์รี่ราคา 450-550 บาท (เที่ยวเดียว) หรือ 850-1,000 บาท (ไป-กลับ) ยังไม่รวมค่าอุทยาน 200 บาท
แนะนำมาก่อนเวลาเรือออกอย่างน้อย 1-1.5 ชั่วโมง เพื่อเช็คอิน ชำระค่าอุทยาน และเตรียมตัวขึ้นเรือ ช่วงไฮซีซันควรมาเร็วกว่านั้น
มี มีลานจอดรถฟรีกว้างขวางตรงหน้าท่าเรือ สามารถจอดได้หลายร้อยคัน มีรปภ.ดูแล หรือจะฝากรถกับร้านค้าใกล้เคียงที่มีหลังคาคลุม ค่าบริการ 50-100 บาท/วัน
ซื้อได้ แต่ช่วงไฮซีซัน (พฤศจิกายน - เมษายน) อาจเต็ม ควรจองล่วงหน้า ช่วงโลว์ซีซันสามารถซื้อหน้างานได้สบายๆ
หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย คลื่นลมแรง บริษัทเรืออาจเลื่อนหรือยกเลิกเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะช่วงมรสุม (มิถุนายน - ตุลาคม) แนะนำโทรสอบถามก่อนเดินทาง
ขึ้นได้ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีฟรี (นั่งตัก) เด็ก 2-11 ปีราคาพิเศษ ควรดูแลอย่างใกล้ชิด สวมเสื้อชูชีพตลอดเวลา
มี มีร้านอาหารและเครื่องดื่มหลายร้าน ทั้งอาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว และ 7-Eleven ราคาอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ไม่แพงมากเกินไป
ทานยาแก้เมาเรือก่อนขึ้นเรือ 30 นาที นั่งตรงกลางเรือหรือด้านหลัง มองขอบฟ้า หายใจเข้าลึกๆ หลีกเลี่ยงอ่านหนังสือหรือมองโทรศัพท์ หากเมาหนัก ควรเลือกเรือเฟอร์รี่ที่นิ่งกว่า
มี มี Wi-Fi ฟรีให้บริการทั่วทั้งท่าเรือ เชื่อมต่อได้ไม่ยาก ความเร็วพอใช้ เหมาะสำหรับเช็คอีเมลหรือโซเชียลมีเดีย
ได้ กระเป๋าน้ำหนักไม่เกิน 20 กก. ฟรี เกินนั้นคิดค่าบริการ 50-100 บาท/กระเป๋า เฟอร์รี่รองรับสัมภาระได้มากกว่าสปีดโบ๊ท
คิดที่ท่าเรือปากบารา หลังจากเช็คอินเรือแล้ว ต้องไปชำระที่เคาน์เตอร์เก็บค่าอุทยาน ผู้ใหญ่ไทย 200 บาท เด็ก 100 บาท จะได้สติกเกอร์ติดที่อก
มี มีรีสอร์ทและโรงแรมในอำเภอละงูหลายแห่ง ระยะห่างจากท่าเรือ 5-15 กิโลเมตร ราคา 500-2,000 บาท/คืน เหมาะสำหรับพักค้างคืนก่อนขึ้นเรือเช้าตรู่
ได้ นอกจากเกาะหลีเป๊ะ ยังมีเรือไปเกาะอาดัง เกาะราวี เกาะบุโหลน และหมู่เกาะอื่นๆ ในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา สอบถามรายละเอียดที่เคาน์เตอร์
ท่าเรือปากบารา สตูล เป็นประตูสู่สวรรค์ทะเลอันดามันที่ทุกคนต้องมาสัมผัสสักครั้ง ด้วยความทันสมัย สะดวกสบาย และบริการที่ครบครัน ทำให้การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะและหมู่เกาะใกล้เคียงเป็นเรื่องง่ายและสนุกสนาน
จุดสำคัญที่ต้องจำ:
✈️ การเดินทาง: จากหาดใหญ่ 2-2.5 ชั่วโมง มีรถตู้บริการตลอด
🚢 เรือ: มี 4 รอบ/วัน (ไฮซีซัน) ใช้เวลา 1.5 ชั่วโมงถึงเกาะหลีเป๊ะ
💰 ราคา: สปีดโบ๊ท 700-800 บาท, เฟอร์รี่ 550 บาท
🎫 ค่าอุทยาน: ผู้ใหญ่ 200 บาท, เด็ก 100 บาท
⏰ มาก่อนเวลา: อย่างน้อย 1-1.5 ชั่วโมง
📱 ติดต่อ: 0962284000
🅿️ จอดรถ: มีที่จอดฟรีกว้างขวาง
เคล็ดลับสำคัญ:
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางมือใหม่หรือมือเก่า ท่าเรือปากบาราพร้อมต้อนรับคุณด้วยบริการที่เป็นมิตร สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และเส้นทางสู่เกาะในฝันที่คุณจะไม่มีวันลือ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาเริ่มต้นการผจญภัยสู่มัลดีฟส์เมืองไทยกันเถอะ!
หลังจากลงเรือที่เกาะหลีเป๊ะแล้ว คุณจะได้พบกับ:
หาดพัทยา (Pattaya Beach):
หาดซันไรส์ (Sunrise Beach):
หาดซันเซ็ต (Sunset Beach):
กิจกรรมบนเกาะ:
High Season (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์):
Shoulder Season (มีนาคม - เมษายน):
Low Season (พฤษภาคม - ตุลาคม):
งบประหยัด (2,500-3,500 บาท):
งบกลาง (4,000-6,000 บาท):
งบหรู (7,000-15,000+ บาท):
วันที่ 1: ถึงเกาะและพักผ่อน
วันที่ 2: ทัวร์ดำน้ำ
วันที่ 3: เที่ยวรอบเกาะและเดินทางกลับ
ความปลอดภัย:
สิ่งแวดล้อม:
มารยาท:
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ:
สถานพยาบาลบนเกาะหลีเป๊ะ:
ประกันการเดินทาง: แนะนำซื้อประกันเดินทางก่อนไป คุ้มครอง:
เว็บไซต์:
กลุ่มเฟซบุ๊ค:
Instagram Hashtags:
อัปเดตล่าสุด: ตุลาคม 2025
ติดต่อสอบถาม: 074-712380 ต่อ 1111
เว็บไซต์: www.lipeferry.net
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเดินทางสู่สวรรค์ทะเลอันดามัน และสร้างความทรงจำดีๆ บนเกาะหลีเป๊ะ! 🏝️⛵🌊
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและสถานการณ์ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนเดินทางทุกครั้ง
การเดินทางไปเกาะเต่า Update 2025 (อัพเดต2568) เกาะเต่า เป็นเกาะที่อยู่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี แต่...
การเดินทางไปเกาะเสม็ดด้วยเรือเสม็ดเฟอร์รี่ เรือเฟอร์รี่ไปเกาะเสม็ดมีให้บริการเพียงลำเดียวเท่านั้น สา...
ออฟฟิศเสือดำโก ท่าเรือแหลมศอก สอบถามติดต่อ 0962284000 ที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือแหลมศอก จั...
เรือบุญศิริไปเกาะกูด: คู่มือสมบูรณ์ พร้อมตารางเรือ ราคา และรีวิวจริง 2025 เกาะกูด เกาะสุดท้ายของไทย...