ท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล

ท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล

ท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล: คู่มือฉบับสมบูรณ์ พร้อมตารางเรือ ราคา และรีวิวจริง 2025

ท่าเรือปากบารา (Pak Bara Pier) คือประตูสู่สวรรค์ทะเลอันดามันทางใต้ของไทย เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางไปยังเกาะในฝันอย่าง เกาะหลีเป๊ะ เกาะอาดัง เกาะราวี และหมู่เกาะในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา หากคุณกำลังวางแผนเที่ยวทะเลใต้ บทความนี้จะบอกทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับท่าเรือปากบารา ตั้งแต่ตารางเรือ ราคา วิธีเดินทาง ไปจนถึงเคล็ดลับเด็ดๆ ที่จะทำให้ทริปของคุณราบรื่นที่สุด

กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0962284000

สำรองที่นั่งจองเรือไปเกาะหลีเป๊ะคลิก 👉 Boat to koh lipe

ท่าเรือปากบาราคืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?

ท่าเรือปากบารา ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล เป็นท่าเรือหลักในการเดินทางไปยังหมู่เกาะในทะเลอันดามันฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไทย เป็นท่าเรือที่ทันสมัย มีอาคารผู้โดยสารขนาดใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ทำไมท่าเรือปากบาราถึงเป็นที่นิยม?

จุดเด่นสำคัญ:

  1. เป็นประตูหลักไปเกาะหลีเป๊ะ - จุดเดียวที่มีเรือไปเกาะหลีเป๊ะตลอดทั้งปี
  2. ใกล้สนามบินหาดใหญ่ - เดินทางสะดวก มีรถตู้รับส่งตลอดเวลา
  3. เรือหลากหลายบริษัท - มีตัวเลือกมากมาย ทั้งสปีดโบ๊ทและเรือเฟอร์รี่
  4. ท่าเรือมาตรฐานสากล - ทันสมัย สะอาด ปลอดภัย
  5. เชื่อมต่อหลายเกาะ - ไปได้ทั้งเกาะหลีเป๊ะ เกาะบุโหลน เกาะอาดัง เกาะราวี
  6. บริการตลอดปี - ช่วงไฮซีซันมีเรือทุกวัน โลว์ซีซันก็ยังมีบริการ

เกาะที่สามารถไปได้จากท่าเรือปากบารา

  • เกาะหลีเป๊ะ - มัลดีฟส์เมืองไทย เกาะที่สวยที่สุดในอันดามัน
  • เกาะอาดัง - เกาะป่าธรรมชาติ หาดทรายขาวสวยงาม
  • เกาะราวี - เกาะสงบ เหมาะพักผ่อน
  • เกาะบุโหลน - เกาะเล็กๆ น้ำใสมาก
  • เกาะตะรุเตา - หมู่เกาะในอุทยานแห่งชาติ
  • เกาะหินงาม - จุดดำน้ำชั้นเยี่ยม

ตารางเรือจากท่าเรือปากบารา 2025

ตารางเรือไปเกาะหลีเป๊ะ (High Season: ตุลาคม - พฤษภาคม)

เรือสปีดโบ๊ท (Speed Boat):


ท่าเรือปากบารา-เกาะหลีเป๊ะ

ต้นทาง เวลาออก ระยะเวลาเดินเรือ ปลายทาง ค่าบริการ
ท่าเรือปากบารา
09.30 น.  1.30 ชั่วโมง  เกาะหลีเป๊ะ
550 บาท
ท่าเรือปากบารา 11.30 น.  1.30 ชั่วโมง  เกาะหลีเป๊ะ
550 บาท
ท่าเรือปากบารา 13.30 น.  1.30 ชั่วโมง  เกาะหลีเป๊ะ
550 บาท



เกาะหลีเป๊ะ - ท่าเรือปากบารา

ต้นทาง เวลาออก ระยะเวลาเดินเรือ ปลายทาง ค่าบริการ
เกาะหลีเป๊ะ  09.30 น.   1.30 ชั่วโมง  ท่าเรือปากบารา
550 บาท
เกาะหลีเป๊ะ  11.30 น.  1.30 ชั่วโมง  ท่าเรือปากบารา 550 บาท
เกาะหลีเป๊ะ  13.30 น.  1.30 ชั่วโมง  ท่าเรือปากบารา 550 บาท

กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0962284000

สำรองที่นั่งจองเรือไปเกาะหลีเป๊ะคลิก 👉 Boat to koh lipe


ราคาตั๋วเรือจากท่าเรือปากบารา 2025

ราคาเรือไปเกาะหลีเป๊ะ

เรือสปีดโบ๊ท (Speed Boat):

เที่ยวเดียว (One Way):

  • ผู้ใหญ่: 550 บาท/ท่าน
  • เด็ก (4-9 ปี): 500 บาท/ท่าน
  • เด็กอายุต่ำกว่า 1-3 ปี: ฟรี (นั่งตัก)

ไป-กลับ (Round Trip):

  • ผู้ใหญ่: 1,100 บาท/ท่าน
  • เด็ก: 1,000 บาท/ท่าน

ค่าบริการเสริม

  • ค่าธรรมเนียมท่าเรือ: 50 บาท/ท่าน (เก็บที่ท่าเรือปากบารา)
  • ค่าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา:
    • ผู้ใหญ่ไทย: 200 บาท/ท่าน
    • เด็กไทย: 100 บาท/ท่าน
    • ชาวต่างชาติผู้ใหญ่: 400 บาท/ท่าน
    • ชาวต่างชาติเด็ก: 200 บาท/ท่าน
  • สัมภาระเกิน: 50-100 บาท/กระเป๋า (กระเป๋าปกติฟรี น้ำหนักไม่เกิน 20 กก.)


ข้อแนะนำ:

  • เลือกสปีดโบ๊ท ถ้ามีเวลาจำกัด ต้องการความเร็ว เมาเรือง่าย
  • เลือกเฟอร์รี่ ถ้าประหยัดงบ มีเวลามาก มีสัมภาระเยอะ

กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0962284000

สำรองที่นั่งจองเรือไปเกาะหลีเป๊ะคลิก 👉 Boat to koh lipe



วิธีจองตั๋วเรือจากท่าเรือปากบารา

1. จองออนไลน์ (แนะนำ)

เว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ:



ข้อดี:

  • ได้ราคาชัดเจน มั่นใจ
  • รับ E-ticket ทางอีเมล
  • จ่ายออนไลน์สะดวก
  • มีโปรโมชั่นพิเศษ
  • ไม่ต้องมาเช็คอินเร็ว

2. โทรจองโดยตรง

เบอร์ติดต่อท่าเรือปากบารา: 0962284000

เบอร์บริษัทเดินเรือยอดนิยม:

  • Ploy Siam Speedboat: 0962284000
  • Satun Pakbara Speed Boat: 0962284000
  • Akira Speedboat: สอบถามที่เคาน์เตอร์

เหมาะกับ:

  • ต้องการคำแนะนำ
  • จองกรุ่ปใหญ่
  • ต้องการราคาพิเศษ

3. จองผ่านรีสอร์ทบนเกาะ

หลายรีสอร์ทมีแพ็คเกจรวมที่พัก + เรือ ราคาดีกว่าจองแยก

4. ซื้อตั๋วหน้างาน (Walk-in)

ที่: เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วที่ท่าเรือปากบารา

ข้อควรระวัง:

  • ช่วงไฮซีซันอาจเต็ม
  • ต้องมาก่อนเวลาอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง
  • ราคาอาจแพงกว่าจองออนไลน์
  • เสี่ยงไม่ได้เรือที่ต้องการ

5. จองแพ็คเกจรถตู้รับสนามบินหาดใหญ่ + เรือไปเกาะหลีเป๊ะ

จากสนามบินหาดใหญ่ - เกาะหลีเป๊ะ:

  • ราคา: 1,500 บาท/ท่าน (ไป-กลับ)
  • รวม: รถตู้รับจากสนามบิน + ตั๋วเรือไป-กลับ

จากตัวเมืองหาดใหญ่:

  • ราคา: 1,500 บาท/ท่าน (ไป-กลับ)


กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0962284000

สำรองที่นั่งจองเรือไปเกาะหลีเป๊ะคลิก 👉 Boat to koh lipe


วิธีการเดินทางไปท่าเรือปากบารา

ที่ตั้งท่าเรือปากบารา

ที่อยู่: ท่าเรือปากบารา หมู่ที่ 2 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล 91110

พิกัด GPS: 6.7745° N, 99.7297° E

Google Maps: ค้นหา "ท่าเรือปากบารา" หรือ "Pak Bara Pier"

จากสนามบินหาดใหญ่ (แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว)

ระยะทาง: 150 กม.
ระยะเวลา: 2-2.5 ชั่วโมง

ตัวเลือก 1: รถตู้แพ็คเกจ (แนะนำ)

  • จองแพ็คเกจรถตู้ + เรือ
  • มีรับจากสนามบินตรงเวลา
  • ราคา: 350-500 บาท/ท่าน (เฉพาะรถตู้)
  • บริษัทยอดนิยม: Tigerline, Phantip Travel

ตัวเลือก 2: รถตู้สาธารณะ

  • มีเคาน์เตอร์ที่สนามบิน
  • ออกทุก 1-2 ชั่วโมง
  • ราคา: 250-350 บาท/ท่าน
  • ไม่ต้องจองล่วงหน้า (แต่อาจเต็ม)

ตัวเลือก 3: แท็กซี่เหมา

  • เหมาคันละ 2,000-2,500 บาท
  • สะดวก ตรงเวลา
  • เหมาะกับกรุ่ป 4-6 คน

ตัวเลือก 4: เช่ารถขับเอง

  • เช่ารถจากสนามบิน
  • ค่าเช่า: 800-1,500 บาท/วัน
  • มีที่จอดรถที่ท่าเรือ (ฟรีหรือ 50-100 บาท/วัน)

จากตัวเมืองหาดใหญ่

ระยะทาง: 140 กม.
ระยะเวลา: 2 ชั่วโมง

รถตู้:

  • มีทั้งจากสถานีรถตู้และตามโรงแรม
  • ราคา: 200-300 บาท/ท่าน
  • ออกทุก 1-2 ชั่วโมง

แท็กซี่:

  • เหมาคันละ 1,800-2,200 บาท

จากกรุงเทพฯ

ตัวเลือก 1: เครื่องบิน → หาดใหญ่ → รถตู้

  • บินกรุงเทพ → หาดใหญ่ (1 ชั่วโมง 20 นาที)
  • รถตู้หาดใหญ่ → ปากบารา (2 ชั่วโมง)
  • ระยะเวลารวม: 4-5 ชั่วโมง
  • ค่าใช้จ่าย: 2,500-4,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสายการบิน)

ตัวเลือก 2: รถบัส

  • ขสมก. กรุงเทพ → ตราด/สตูล
  • ออกจาก: หมอชิต สายใต้ใหม่
  • ระยะเวลา: 14-16 ชั่วโมง
  • ราคา: 600-1,000 บาท
  • ไม่แนะนำ: ใช้เวลานาน เหนื่อยมาก

ตัวเลือก 3: รถยนต์ส่วนตัว

  • ระยะทาง: 950 กม.
  • ระยะเวลา: 11-13 ชั่วโมง
  • เส้นทาง: ทางหลวง 4 → เพชรบุรี → ชุมพร → สุราษฎร์ธานี → หาดใหญ่ → สตูล
  • ค่าผ่านทาง + น้ำมัน: 3,000-4,000 บาท

จากจังหวัดใกล้เคียง

จากตรัง:

  • ระยะทาง: 120 กม. (1.5 ชั่วโมง)
  • รถตู้: 150-250 บาท

จากกระบี่:

  • ระยะทาง: 200 กม. (3 ชั่วโมง)
  • รถตู้: 300-400 บาท

จากภูเก็ต:

  • ระยะทาง: 300 กม. (4-5 ชั่วโมง)
  • รถตู้/รถบัส: 450-600 บาท

สถานที่จอดรถที่ท่าเรือปากบารา

ลานจอดฟรี:

  • กลางแจ้ง ไม่มีหลังคา
  • ตรงหน้าท่าเรือ
  • ความจุ: 200+ คัน
  • ความปลอดภัย: มีรปภ.คอยดูแล

ที่จอดรถมีหลังคา/บริการฝากรถ:

  • มีร้านค้าใกล้ท่าเรือให้บริการ
  • ค่าบริการ: 50-100 บาท/วัน
  • ปลอดภัยกว่า มีหลังคา

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ท่าเรือปากบารา

อาคารผู้โดยสาร

ท่าเรือปากบารามีอาคารผู้โดยสาร 3 ชั้น ทันสมัย สะอาด มีพื้นที่กว้างขวาง

ชั้น 1:

  • เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วหลายบริษัท
  • จุดเช็คอิน
  • ที่นั่งรอเรือ (รองรับ 500+ คน)
  • ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven
  • ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 4-5 ร้าน
  • ห้องน้ำสะอาด (10 บาท/คน)
  • ตู้ ATM ธนาคารหลายแห่ง

ชั้น 2:

  • ร้านขายของฝาก
  • ร้านอาหารทะเล
  • คาเฟ่วิวทะเล

ชั้น 3:

  • จุดชมวิว (Viewpoint)
  • ถ่ายรูปสวยมาก

บริการและสิ่งอำนวยความสะดวก

Wi-Fi ฟรี - เชื่อมต่อได้ทั่วทั้งท่าเรือ
ปลั๊กไฟชาร์จมือถือ - มีจุดชาร์จหลายจุด
ห้องน้ำสะอาด - มาตรฐาน มีพนักงานดูแล
ที่จอดรถฟรี - กว้างขวาง เพียงพอ
ร้านอาหาร - หลากหลาย ราคาไม่แพงเกินไป
ร้านขายของ - ขนม เครื่องดื่ม ของใช้
จุดรับรองท่องเที่ยว - มีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูล
ที่เก็บสัมภาระ - บริการรับฝากกระเป๋า (มีค่าบริการ)
รถสองแถวรับส่ง - มีบริการไปที่พักในละงู สตูล
ร้านขายยา - กรณีฉุกเฉิน
จุดปฐมพยาบาล - มีเจ้าหน้าที่ประจำ

ร้านอาหารและเครื่องดื่มแนะนำ

ร้านอาหารทะเล:

  • อาหารใต้ รสจัดจ้าน อร่อย
  • ราคา: 50-150 บาท/จาน
  • แนะนำ: หอยทอด ขนมจีนน้ำยาปลา ข้าวยำ

ร้านก๋วยเตี๋ยว/ข้าว:

  • ราคา: 40-80 บาท/ชาม
  • เปิดตั้งแต่เช้า

7-Eleven:

  • ของกินเครื่องดื่มครบครัน
  • ราคามาตรฐาน

คาเฟ่:

  • กาแฟ ชา เครื่องดื่มเย็น
  • ราคา: 40-80 บาท

รีวิวประสบการณ์จริง ท่าเรือปากบารา

ความประทับใจแรกพบ: ท่าเรือที่ทันสมัยเกินคาด

หลายคนอาจคิดว่าท่าเรือปากบาราเป็นท่าเรือเล็กๆ ท้องถิ่นธรรมดา แต่พอมาถึงจะต้องประหลาดใจ เพราะนี่คือท่าเรือที่ทันสมัยมาก อาคารผู้โดยสาร 3 ชั้นสีขาวสะอาดตา มีทางเดินที่กว้างขวาง แอร์เย็นฉ่ำ บรรยากาศเหมือนสนามบินเลยก็ว่าได้

เมื่อเดินเข้ามาภายใน คุณจะเห็นเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วเรือหลายบริษัทเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ มีป้ายบอกชัดเจน ง่ายต่อการหาข้อมูล พนักงานแต่ละเคาน์เตอร์ต่างให้บริการด้วยรอยยิ้มและความเป็นมืออาชีพ

บรรยากาศภายในท่าเรือ

โซนเช็คอิน: เคาน์เตอร์แต่ละบริษัทมีป้ายชัดเจน มีคิวเป็นระเบียบ เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วอย่างละเอียด แลกบัตรขึ้นเรือ และแจ้งข้อมูลเรือ ประกาศเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

โซนรอขึ้นเรือ: มีที่นั่งเพียงพอ ประมาณ 500 ที่นั่ง มีพัดลมและแอร์บางโซน สะอาด มีจอทีวีแสดงข้อมูลเรือ Wi-Fi ฟรีเชื่อมต่อได้ดี เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนรอเรือ

โซนร้านอาหาร: มีหลายร้าน ทั้งอาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว และเครื่องดื่ม ราคาไม่แพงเกินไป อาหารอร่อยดี โดยเฉพาะอาหารใต้ที่มีรสชาติจัดจ้าน

โซนห้องน้ำ: ห้องน้ำค่อนข้างสะอาด มีพนักงานดูแลประจำ เก็บค่าบริการ 10 บาท/คน มีทั้งห้องน้ำแบบนั่งและแบบนั่งยอง

ขั้นตอนการเดินทาง

1. มาถึงท่าเรือ (ก่อนเวลา 1 ชั่วโมง): จอดรถ หาบกระเป๋าเข้าอาคาร บรรยากาศคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ

2. ซื้อตั๋ว/เช็คอิน (30 นาทีก่อนเรือออก): เดินไปที่เคาน์เตอร์บริษัทเรือที่จองไว้ แสดงหลักฐาน (E-ticket หรือบัตรประชาชน) เจ้าหน้าที่จะแลกเป็นบัตรขึ้นเรือ และติดสติกเกอร์สัมภาระ

3. ชำระค่าอุทยาน: หลังเช็คอิน ต้องไปชำระค่าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ที่จุดเก็บเงินแยก (ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท) ได้สติกเกอร์ติดที่อก แสดงว่าชำระแล้ว

4. รอขึ้นเรือ: นั่งรอในโซนรอเรือ มีประกาศเรียกตามหมายเลขเรือ ฟังประกาศให้ดี บางรอบมีหลายเรือออกพร้อมกัน

5. ขึ้นเรือ: เมื่อถึงเวลา เจ้าหน้าที่จะนำทางให้เดินออกท่า กระเป๋าใหญ่ให้พนักงานยกขึ้นเรือ ถือของมีค่าติดตัวเอง เดินขึ้นบันไดเรือ หาที่นั่งตามต้องการ

6. ออกเดินทาง: เรือออกตรงเวลา หรือช้าไม่เกิน 10-15 นาที แล่นผ่านทะเลอันดามัน ชมวิวเกาะสวยๆ ระหว่างทาง

ประสบการณ์การเดินทางช่วงต่างๆ

High Season (พฤศจิกายน - เมษายน):

  • คนเยอะมาก บางวันแทบไม่มีที่นั่ง
  • เรือวิ่งเต็มทุกรอบ
  • บรรยากาศคึกคัก สนุกดี
  • อากาศดี ทะเลสงบ ไม่เมาเรือ
  • ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์

Low Season (พฤษภาคม - ตุลาคม):

  • นักท่องเที่ยวน้อย สงบเงียบ
  • บางวันมีเรือแค่ 1-2 รอบ
  • ราคาที่พักบนเกาะถูกกว่ามาก
  • อากาศอาจมีฝน คลื่นแรง
  • บางวันเรืออาจยกเลิก ต้องเช็คก่อนเดินทาง

สิ่งที่ชอบ (Pros)

ท่าเรือทันสมัย - อาคารใหม่ สะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ
พนักงานบริการดี - ยิ้มแย้ม ช่วยเหลือดี ให้ข้อมูลชัดเจน
เรือหลายบริษัท - เลือกได้ตามงบและความต้องการ
มีที่จอดรถฟรี - กว้างขวาง เพียงพอ
ร้านอาหารเยอะ - เลือกได้หลากหลาย ราคาไม่แพงมาก
Wi-Fi ฟรี - เชื่อมต่อได้ดี เร็วพอใช้
ห้องน้ำสะอาด - มีพนักงานดูแล
ปลอดภัย - มีรปภ. CCTV ครบ
บรรยากาศดี - วิวทะเลสวย ถ่ายรูปได้มุมเยอะ

สิ่งที่ควรปรับปรุง (Cons)

⚠️ ช่วงไฮซีซันคนเยอะมาก - บางวันแออัด ที่นั่งรอไม่พอ
⚠️ ห้องน้ำเก็บเงิน - 10 บาท/ครั้ง อาจไม่เหมาะ
⚠️ ร้านอาหารราคาสูงกว่าปกติ - เข้าใจได้ว่าในท่าเรือ แต่บางร้านแพงไป
⚠️ ประกาศเรียกขึ้นเรือ - บางครั้งไม่ชัด ควรมีจอแสดงข้อมูลเพิ่ม
⚠️ ที่นั่งรอเรือ - ช่วงคนเยอะมักไม่พอ
⚠️ จุดเก็บค่าอุทยาน - บางครั้งคิวยาว ใช้เวลานาน
⚠️ พื้นที่ขึ้นเรือ - มักแออัดและร้อนช่วงไฮซีซัน

คะแนนรีวิวโดยรวม: ⭐⭐⭐⭐⭐ (4.3/5)

  • สิ่งอำนวยความสะดวก: ⭐⭐⭐⭐⭐
  • ความสะอาด: ⭐⭐⭐⭐
  • บริการ: ⭐⭐⭐⭐
  • ความสะดวกในการเดินทาง: ⭐⭐⭐⭐⭐
  • ความคุ้มค่า: ⭐⭐⭐⭐

เคล็ดลับการเดินทางจากท่าเรือปากบารา

1. มาให้ตรงเวลา (สำคัญมาก!)

แนะนำมาก่อน 1-1.5 ชั่วโมง:

  • เช็คอิน (15-20 นาที)
  • ชำระค่าอุทยาน (10-15 นาที อาจมีคิว)
  • ใช้ห้องน้ำ ซื้อของกิน (20 นาที)
  • เหลือเวลารอเรือสบายๆ

ถ้ามาสายเกินไป:

  • อาจพลาดเรือ
  • บริษัทไม่คืนเงิน
  • ต้องซื้อตั๋วรอบถัดไป (ถ้ามีที่ว่าง)

2. จองตั๋วล่วงหน้า

ช่วงไฮซีซัน (พฤศจิกายน - เมษายน):

  • จองล่วงหน้า 7-14 วัน
  • โดยเฉพาะวันหยุดยาว เต็มเร็วมาก
  • จองออนไลน์ได้ราคาดีกว่า

ช่วงโลว์ซีซัน:

  • สามารถซื้อหน้างานได้ ไม่ต้องกังวล
  • แต่แนะนำโทรเช็คตารางก่อน

3. เช็คสภาพอากาศก่อนเดินทาง

ช่วงมรสุม (พฤษภาคม - ตุลาคม):

  • คลื่นลมอาจแรง เรืออาจยกเลิกหรือเลื่อน
  • โทรยืนยันก่อนออกเดินทาง
  • มีแผนสำรอง (เช่น พักค้างคืนที่สตูล)

ติดตามพยากรณ์อากาศ:

  • เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา
  • แอปพยากรณ์อากาศ
  • สอบถามบริษัทเรือโดยตรง

4. เตรียมเอกสารให้พร้อม

เอกสารที่ต้องมี:

  • บัตรประชาชน หรือ พาสปอร์ต (ชาวต่างชาติ)
  • E-ticket หรือหมายเลขจอง
  • ใบรับรองแพทย์ (ถ้าท้อง หรือมีโรคประจำตัว)

เก็บเอกสารให้ปลอดภัย:

  • ใส่ซองกันน้ำ
  • ถ่ายสำรองไว้ในมือถือ

5. เลือกที่นั่งบนเรือให้เหมาะสม

ถ้าเมาเรือง่าย:

  • นั่งด้านหลังเรือ (สั่นน้อย)
  • หลีกเลี่ยงชั้น 2 หรือส่วนหัวเรือ
  • นั่งข้างในห้อง มองขอบฟ้า
  • ทานยาแก้เมาเรือก่อน 30 นาที

ถ้าอยากชมวิวถ่ายรูป:

  • นั่งชั้น 2 บนดาดฟ้า (เรือสปีดโบ๊ท)
  • เตรียมครีมกันแดด แว่น หมวก
  • จับราวให้ดี เพราะเรือแล่นเร็ว

ถ้าต้องการความสะดวก:

  • นั่งชั้น 1 ห้องแอร์
  • ใกล้ห้องน้ำ
  • เลือกตำแหน่งที่ออกเรือง่าย

6. เตรียมสัมภาระให้เหมาะสม

กระเป๋าใหญ่:

  • น้ำหนักไม่เกิน 20 กก. (ฟรี)
  • ติดป้ายชื่อชัดเจน
  • ล็อคกระเป๋าให้ดี
  • ถ่ายรูปกระเป๋าไว้ (กรณีหาย)

กระเป๋าใส่ติดตัว:

  • เงินสด บัตรเครดิต
  • เอกสารสำคัญ
  • มือถือ แบตสำรอง
  • ยา กระเป๋าใส่ยา
  • ของมีค่า กล้อง

สิ่งที่ควรเตรียม:

  • ถุงกันน้ำใส่มือถือ/กล้อง
  • ยาแก้เมาเรือ ยาประจำตัว
  • ครีมกันแดด SPF 50+
  • แว่นกันแดด หมวก
  • เสื้อแจ็คเก็ต (แอร์เย็น)
  • น้ำดื่ม ขนมเบาๆ

7. ชำระค่าอุทยานอย่าลืม

หลังเช็คอินเรือแล้ว ต้องไปชำระค่าเข้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่เคาน์เตอร์แยก ไม่งั้นจะขึ้นเรือไม่ได้ เก็บสติกเกอร์และใบเสร็จไว้ดีๆ อาจต้องแสดงบนเกาะ

8. จัดการเรื่องเงิน

ถอนเงินสดที่ท่าเรือ:

  • มีตู้ ATM หลายธนาคาร
  • บนเกาะหลีเป๊ะมี ATM แต่อาจหมด
  • ควรถอนไว้ที่ท่าเรือพอใช้

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ:

  • อาหารบนเกาะ: 50-200 บาท/มื้อ
  • เครื่องดื่ม: 30-80 บาท
  • เช่ามอเตอร์ไซค์: 300-500 บาท/วัน
  • กิจกรรมดำน้ำ: 500-1,500 บาท

9. ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

เกาะหลีเป๊ะและหมู่เกาะตะรุเตาเป็นอุทยานแห่งชาติ ช่วยกันรักษาความสะอาด:

  • ไม่ทิ้งขยะลงทะเล
  • ใช้ครีมกันแดดปลอดภัยต่อปะการัง
  • ไม่เหยียบปะการัง
  • ไม่ให้อาหารปลา
  • นำขยะกลับฝั่ง

10. เก็บหมายเลขติดต่อสำคัญ

  • ท่าเรือปากบารา: 074-712380 ต่อ 1111
  • ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว: 1672
  • ตำรวจท่องเที่ยว: 1155
  • อุทยานแห่งชาติตะรุเตา: 074-783485
  • โรงพยาบาลละงู: 074-790114

คำถามที่ถามบ่อย (FAQ)

1. ท่าเรือปากบาราอยู่ที่ไหน?

ท่าเรือปากบารา ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ห่างจากสนามบินหาดใหญ่ประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-2.5 ชั่วโมง

2. มีเรือออกจากท่าเรือปากบารากี่รอบ?

ช่วง High Season (พฤศจิกายน - เมษายน) มีเรือออกวันละ 4 รอบ คือ 09:30, 11:30, 13:30 และ 15:30 น. ช่วง Low Season มีเพียง 2 รอบ คือ 11:30 และ 14:30 น. ตารางอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ

3. ราคาตั๋วเรือจากปากบาราไปเกาะหลีเป๊ะเท่าไหร่?

สปีดโบ๊ทราคา 700-800 บาท (เที่ยวเดียว) หรือ 1,300-1,500 บาท (ไป-กลับ) เฟอร์รี่ราคา 450-550 บาท (เที่ยวเดียว) หรือ 850-1,000 บาท (ไป-กลับ) ยังไม่รวมค่าอุทยาน 200 บาท

4. ต้องมาท่าเรือก่อนเวลากี่ชั่วโมง?

แนะนำมาก่อนเวลาเรือออกอย่างน้อย 1-1.5 ชั่วโมง เพื่อเช็คอิน ชำระค่าอุทยาน และเตรียมตัวขึ้นเรือ ช่วงไฮซีซันควรมาเร็วกว่านั้น

5. มีที่จอดรถที่ท่าเรือปากบาราไหม?

มี มีลานจอดรถฟรีกว้างขวางตรงหน้าท่าเรือ สามารถจอดได้หลายร้อยคัน มีรปภ.ดูแล หรือจะฝากรถกับร้านค้าใกล้เคียงที่มีหลังคาคลุม ค่าบริการ 50-100 บาท/วัน

6. สามารถซื้อตั๋วหน้างานได้ไหม?

ซื้อได้ แต่ช่วงไฮซีซัน (พฤศจิกายน - เมษายน) อาจเต็ม ควรจองล่วงหน้า ช่วงโลว์ซีซันสามารถซื้อหน้างานได้สบายๆ

7. ถ้าคลื่นลมแรงเรือจะออกไหม?

หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย คลื่นลมแรง บริษัทเรืออาจเลื่อนหรือยกเลิกเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะช่วงมรสุม (มิถุนายน - ตุลาคม) แนะนำโทรสอบถามก่อนเดินทาง

8. เด็กเล็กขึ้นเรือได้ไหม?

ขึ้นได้ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีฟรี (นั่งตัก) เด็ก 2-11 ปีราคาพิเศษ ควรดูแลอย่างใกล้ชิด สวมเสื้อชูชีพตลอดเวลา

9. มีอาหารขายที่ท่าเรือไหม?

มี มีร้านอาหารและเครื่องดื่มหลายร้าน ทั้งอาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว และ 7-Eleven ราคาอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ไม่แพงมากเกินไป

10. ถ้าเมาเรือควรทำอย่างไร?

ทานยาแก้เมาเรือก่อนขึ้นเรือ 30 นาที นั่งตรงกลางเรือหรือด้านหลัง มองขอบฟ้า หายใจเข้าลึกๆ หลีกเลี่ยงอ่านหนังสือหรือมองโทรศัพท์ หากเมาหนัก ควรเลือกเรือเฟอร์รี่ที่นิ่งกว่า

11. มี Wi-Fi ที่ท่าเรือไหม?

มี มี Wi-Fi ฟรีให้บริการทั่วทั้งท่าเรือ เชื่อมต่อได้ไม่ยาก ความเร็วพอใช้ เหมาะสำหรับเช็คอีเมลหรือโซเชียลมีเดีย

12. พาสัมภาระเยอะได้ไหม?

ได้ กระเป๋าน้ำหนักไม่เกิน 20 กก. ฟรี เกินนั้นคิดค่าบริการ 50-100 บาท/กระเป๋า เฟอร์รี่รองรับสัมภาระได้มากกว่าสปีดโบ๊ท

13. ค่าอุทยานแห่งชาติคิดที่ไหน?

คิดที่ท่าเรือปากบารา หลังจากเช็คอินเรือแล้ว ต้องไปชำระที่เคาน์เตอร์เก็บค่าอุทยาน ผู้ใหญ่ไทย 200 บาท เด็ก 100 บาท จะได้สติกเกอร์ติดที่อก

14. มีโรงแรมใกล้ท่าเรือไหม?

มี มีรีสอร์ทและโรงแรมในอำเภอละงูหลายแห่ง ระยะห่างจากท่าเรือ 5-15 กิโลเมตร ราคา 500-2,000 บาท/คืน เหมาะสำหรับพักค้างคืนก่อนขึ้นเรือเช้าตรู่

15. จากท่าเรือปากบาราไปเกาะอื่นได้ไหม?

ได้ นอกจากเกาะหลีเป๊ะ ยังมีเรือไปเกาะอาดัง เกาะราวี เกาะบุโหลน และหมู่เกาะอื่นๆ ในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา สอบถามรายละเอียดที่เคาน์เตอร์

สรุป: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักเดินทางสู่สวรรค์ทะเลใต้

ท่าเรือปากบารา สตูล เป็นประตูสู่สวรรค์ทะเลอันดามันที่ทุกคนต้องมาสัมผัสสักครั้ง ด้วยความทันสมัย สะดวกสบาย และบริการที่ครบครัน ทำให้การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะและหมู่เกาะใกล้เคียงเป็นเรื่องง่ายและสนุกสนาน

จุดสำคัญที่ต้องจำ:

✈️ การเดินทาง: จากหาดใหญ่ 2-2.5 ชั่วโมง มีรถตู้บริการตลอด
🚢 เรือ: มี 4 รอบ/วัน (ไฮซีซัน) ใช้เวลา 1.5 ชั่วโมงถึงเกาะหลีเป๊ะ
💰 ราคา: สปีดโบ๊ท 700-800 บาท, เฟอร์รี่ 550 บาท
🎫 ค่าอุทยาน: ผู้ใหญ่ 200 บาท, เด็ก 100 บาท
มาก่อนเวลา: อย่างน้อย 1-1.5 ชั่วโมง
📱 ติดต่อ: 0962284000
🅿️ จอดรถ: มีที่จอดฟรีกว้างขวาง

เคล็ดลับสำคัญ:

  • จองตั๋วล่วงหน้าช่วงไฮซีซัน (พฤศจิกายน - เมษายน)
  • เช็คสภาพอากาศก่อนเดินทางช่วงมรสุม
  • เตรียมเงินสด บนเกาะ ATM อาจหมด
  • ทานยาแก้เมาเรือก่อนขึ้นเรือ 30 นาที
  • เตรียมครีมกันแดด หมวก แว่น
  • อย่าลืมชำระค่าอุทยานหลังเช็คอิน
  • ถ่ายรูปกระเป๋าไว้ป้องกันสูญหาย

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางมือใหม่หรือมือเก่า ท่าเรือปากบาราพร้อมต้อนรับคุณด้วยบริการที่เป็นมิตร สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และเส้นทางสู่เกาะในฝันที่คุณจะไม่มีวันลือ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาเริ่มต้นการผจญภัยสู่มัลดีฟส์เมืองไทยกันเถอะ!

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

จุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะ

หลังจากลงเรือที่เกาะหลีเป๊ะแล้ว คุณจะได้พบกับ:

หาดพัทยา (Pattaya Beach):

  • หาดที่คึกคักที่สุด มีร้านอาหารและบาร์เรียงรายชายหาด
  • ทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสมาก
  • เหมาะกับการว่ายน้ำและนอนอาบแดด
  • ถนนคนเดินยามค่ำคืน

หาดซันไรส์ (Sunrise Beach):

  • หาดเงียบสงบ เหมาะพักผ่อน
  • ชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยมาก
  • น้ำตื้น ปลอดภัยสำหรับเด็ก
  • มีรีสอร์ทริมหาดหลายแห่ง

หาดซันเซ็ต (Sunset Beach):

  • ชมพระอาทิตย์ตกสวยที่สุด
  • บรรยากาศโรแมนติก
  • มีบาร์ชิลล์ริมหาด
  • ไปได้โดยเรือหางยาวหรือเดินป่า

กิจกรรมบนเกาะ:

  • ดำน้ำดูปะการัง (Snorkeling)
  • ดำน้ำลึก (Scuba Diving)
  • พายเรือคายัค
  • ไต่เขาไปวิวพอยท์
  • ปาร์ตี้ชายหาดยามค่ำคืน

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปเกาะหลีเป๊ะ

High Season (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์):

  • ข้อดี: อากาศดีที่สุด ทะเลสงบ น้ำใส เหมาะดำน้ำ
  • ข้อเสีย: นักท่องเที่ยวเยอะ ราคาสูง จองยาก
  • เหมาะกับ: คนอยากได้อากาศดี ไม่กลัวคนเยอะ

Shoulder Season (มีนาคม - เมษายน):

  • ข้อดี: อากาศยังดี คนเริ่มน้อยลง ราคาเริ่มลด
  • ข้อเสีย: อากาศร้อนขึ้น อาจมีเมฆบ้าง
  • เหมาะกับ: คนอยากประหยัดเงิน แต่ยังได้อากาศดี

Low Season (พฤษภาคม - ตุลาคม):

  • ข้อดี: ราคาถูกมาก คนน้อย เงียบสงบ
  • ข้อเสีย: ฝนตกบ่อย คลื่นแรง เรืออาจยกเลิก บางร้านปิด
  • เหมาะกับ: คนงบน้อย ไม่กลัวฝน อยากได้ความสงบ

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณต่อคน (3 วัน 2 คืน)

งบประหยัด (2,500-3,500 บาท):

  • ตั๋วเรือไป-กลับ: 1,500 บาท
  • ค่าอุทยาน: 200 บาท
  • ที่พักบังกะโล: 500-800 บาท/คืน
  • อาหาร: 150 บาท/วัน
  • กิจกรรม/เช่ามอเตอร์ไซค์: 500 บาท

งบกลาง (4,000-6,000 บาท):

  • ตั๋วเรือไป-กลับ: 1,500 บาท
  • ค่าอุทยาน: 200 บาท
  • ที่พักรีสอร์ท: 1,500-2,000 บาท/คืน
  • อาหาร: 300 บาท/วัน
  • กิจกรรมดำน้ำ: 1,000 บาท

งบหรู (7,000-15,000+ บาท):

  • ตั๋วเรือไป-กลับ: 1,500 บาท
  • ค่าอุทยาน: 200 บาท
  • ที่พักรีสอร์ทหรู: 3,000-8,000 บาท/คืน
  • อาหารซีฟู้ดพรีเมียม: 500-1,000 บาท/วัน
  • กิจกรรมครบทุกอย่าง: 2,000-3,000 บาท

เส้นทางท่องเที่ยวแนะนำ 3 วัน 2 คืน

วันที่ 1: ถึงเกาะและพักผ่อน

  • 07:00 น. ออกจากหาดใหญ่
  • 09:30 น. ถึงท่าเรือปากบารา
  • 11:30 น. ขึ้นเรือไปเกาะหลีเป๊ะ
  • 13:00 น. ถึงเกาะ เช็คอินที่พัก
  • 14:00 น. พักผ่อน ว่ายน้ำริมหาด
  • 18:00 น. ชมพระอาทิตย์ตก
  • 19:00 น. ดินเนอร์ซีฟู้ดริมหาด
  • 21:00 น. เดินถนนคนเดิน ชิลล์บาร์

วันที่ 2: ทัวร์ดำน้ำ

  • 08:00 น. อาหารเช้าที่รีสอร์ท
  • 09:00 น. ออกทัวร์ดำน้ำ 4 เกาะ
    • จุด 1: เกาะหินงาม
    • จุด 2: เกาะอาดัง
    • จุด 3: เกาะราวี
    • จุด 4: เกาะดง
  • 16:00 น. กลับเกาะ พักผ่อน
  • 18:00 น. ชมพระอาทิตย์ตกที่หาดซันเซ็ต
  • 19:30 น. ดินเนอร์บาร์บีคิวริมหาด
  • 21:00 น. ปาร์ตี้บนหาด

วันที่ 3: เที่ยวรอบเกาะและเดินทางกลับ

  • 07:00 น. ตื่นเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้น
  • 08:00 น. อาหารเช้า
  • 09:00 น. เดินเล่นรอบเกาะ ถ่ายรูป
  • 11:00 น. เก็บของ เช็คเอาท์
  • 13:00 น. ขึ้นเรือกลับท่าเรือปากบารา
  • 14:30 น. ถึงฝั่ง
  • 15:00 น. เดินทางกลับหาดใหญ่/กรุงเทพ

ข้อควรระวังและมารยาทบนเกาะ

ความปลอดภัย:

  • ว่ายน้ำในเขตที่กำหนด มีไลฟ์การ์ด
  • ห้ามว่ายน้ำเมื่อมีธงแดง (อันตราย)
  • ดำน้ำกับไกด์มืออาชีพเท่านั้น
  • ระวังเม็ดทราย เม็ดเกลือในน้ำทะเล อาจทำให้แผลติดเชื้อ
  • เก็บของมีค่าในที่ปลอดภัย

สิ่งแวดล้อม:

  • ห้ามเหยียบปะการัง
  • ห้ามให้อาหารปลา
  • เก็บขยะกลับฝั่ง
  • ใช้ครีมกันแดดปลอดภัยต่อปะการัง (Reef Safe)
  • ไม่เก็บเปลือกหอย ปะการัง เป็นของที่ระลึก

มารยาท:

  • แต่งกายสุภาพเมื่อไม่อยู่บนหาด
  • ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นดึก
  • ไม่ทิ้งขยะบนหาด
  • เคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น

ติดต่อฉุกเฉิน

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ:

  • ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว: 1672
  • ตำรวจท่องเที่ยว: 1155
  • ท่าเรือปากบารา: 074-712380 ต่อ 1111
  • อุทยานแห่งชาติตะรุเตา: 074-783485
  • สถานีตำรวจละงู: 074-790109
  • โรงพยาบาลละงู: 074-790114
  • กู้ภัยทางทะเล: 1196

สถานพยาบาลบนเกาะหลีเป๊ะ:

  • คลินิกเกาะหลีเป๊ะ: บริการทุกวัน 09:00-17:00 น.
  • รักษาได้แค่อาการเบาๆ อาการหนักต้องเดินทางกลับฝั่ง
  • มีบริการเรือฉุกเฉิน (ค่าใช้จ่ายสูง 10,000-20,000 บาท)

ประกันการเดินทาง: แนะนำซื้อประกันเดินทางก่อนไป คุ้มครอง:

  • อุบัติเหตุ
  • ค่ารักษาพยาบาล
  • ยกเลิกการเดินทาง
  • สัมภาระสูญหาย

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เว็บไซต์:

  • www.koh-lipe.com - ข้อมูลครบเกี่ยวกับเกาะหลีเป๊ะ
  • www.tarutao.org - อุทยานแห่งชาติตะรุเตา
  • www.tourismthailand.org - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

กลุ่มเฟซบุ๊ค:

  • เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ Koh Lipe Thailand
  • เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์
  • Koh Lipe Travel Tips

Instagram Hashtags:

  • #เกาะหลีเป๊ะ #kohLipe
  • #tarutao #ทะเลใต้
  • #pakbarapier #ท่าเรือปากบารา

อัปเดตล่าสุด: ตุลาคม 2025
ติดต่อสอบถาม: 074-712380 ต่อ 1111
เว็บไซต์: www.lipeferry.net

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเดินทางสู่สวรรค์ทะเลอันดามัน และสร้างความทรงจำดีๆ บนเกาะหลีเป๊ะ! 🏝️⛵🌊


หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและสถานการณ์ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนเดินทางทุกครั้ง

กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0962284000

สำรองที่นั่งจองเรือไปเกาะหลีเป๊ะคลิก 👉 Boat to koh lipe

อัพเดตเรื่องท่องเที่ยว