[Review] - รีวิวเกาะหลีเป๊ะ ไปกี่ทีก็เป๊ะ ไม่มีเบื่อ by ferry advice

[Review] - รีวิวเกาะหลีเป๊ะ ไปกี่ทีก็เป๊ะ ไม่มีเบื่อ by ferry advice

สวัสดีเกาะหลีเป๊ะ

สำหรับวันหยุดพักผ่อนในหน้าร้อน  คงหนีไม่พ้นการเที่ยวทะเล เพราะนอกจากจะได้เล่นน้ำทะเลแล้ว  ยังเปลี่ยนบรรยากาศหลีกหนี  ความวุ่นวายในเมือง   เพื่อไปสัมผัส    ธรรมชาตืที่แท้จริง เกาะที่เป็นตัวเลือกเราในการเดินทางครั้งนี้

คือ   "   เกาะหลีเป๊ะ   "

ข้อมูลเกาะหลีเป๊ะ

แน่นอนว่าการเที่ยวใต้นั้น  ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่อนข้างสำคัญ  ฉะนั้นเราควรวางแผนล่วงหน้า  ก่อนอื่น เลือกรีสอร์ทที่ถูกใจ จองผ่าน agoda หรือ ว่า booking.com ก็ได้ค่ะ มีให้เลือกหลายที่   และจองเครื่องแน่นอนว่ายิ่งจองก่อนเดินทางนานยิ่งดี เพราะราคาเครื่องจะถูก และสภาพอากาศ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน

ทริปนี้มีผู้ร่วมเดินทาง ทั้งหมด 8 ชีวิต ซึ่งแน่นอนว่าเราควรยิ่งต้องเตรียมการนัดแนะกันให้เรียบร้อย วันนี้เราบินไฟล์ 06.30 น. นัดเจอกันกับเพื่อนที่ดอนเมือง ออกจากบ้านประมาณ 04.00น. ไฟล์เช้าต้องเผื่อเวลาเพราะคนบินไฟล์นี้เยอะค่ะ

 วันนี้เดินทางด้วยสายการบิน Air asia วันนี้ได้ gate ท้ายๆ เลยต้องมาขึ้นไกลหน่อย ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชม.25 นาทีค่ะ หากใครที่มาเที่ยวหลีเป๊ะ ควรเลือกลงที่สนามบินหาดใหญ่เป็นหลัก เพราะสามารถเลือกใช้บริการรถตู้ และ เรือข้ามไปเกาะใน route เดียวกันได้ค่ะ สามารถเชคตารางรถ+เรือ www.ferryadvice.com  ( บริการรับจอง 24 ชม.ค่ะ)

ขาไปบินผ่านสนามบินอู่ตะเภา สภาพอากาศ ค่อนข้างดีค่ะ วันนี้ฟ้าเปิด แต่ดูพยากรณ์ อากาศมาแล้ววันนี้จะมีฝนตกบริเวณสนามบินหาดใหญ่ ก็วัดดวงค่ะ ว่าจะมากน้อยขนาดไหน

ถึงแล้วค่ะ สนามบิน นานาชาติหาดใหญ่ หลังจากลงเครื่องเสร็จก็รีบไปรับกระเป๋าค่ะค่ะ สำหรับท่านใดที่จองรถล่วงหน้าก็จะสะดวกสบายค่ะ คนขับจะมารอรับที่สนามบิน เปิดมือถือหลังจากลงเครื่องเลยนะค่ะ จะได้โทรติดต่อว่ารถจอดตรงไหน สำหรับท่านใดที่ไม่ได้จองก็จะลำบากหน่อยเพราะต้องหารถและนั่งรถ 2 ต่อกว่าจะถึงท่าเรือ 

หลังจากลงเครื่องเสร็จมารอรับกระเป๋ากันเลยค่ะ ลงเครื่องมากระเป๋าก็มารอเราซะแล้วถือว่าไม่ได้รอนานค่ะ เร็วมากเมื่อเทียบกับสนามบินที่อื่น แต่ไม่แน่ใจว่าเพราะเรามาไฟล์เช้าด้วยรึเปล่านะค่ะ ฉะนั้นถ้าใครเดินทางไฟล์เช้าก็จะสะดวกสบายไม่แออัดมากค่ะ

ถ่ายรูปคู่กันสักหน่อย ครั้งแรกที่มา  ''หลีเป๊ะ'' ด้วยกันรู้สึกตื่นเต้นมาก ทีม AIIZ ซื้อ หนึ่งแถมหนึ่งค่ะ 555

รับกระเป๋าเสร็จ ก็เข้าห้องน้ำกันให้เรียบร้อยค่ะ เราจะใช้เวลาเดินทางกันอีก 2 ชม. จะถึงท่าเรือปากบารา เราเดินออกมารอ คนขับรถนัดแนะกันที่ประตูทางออก หมายเลขแปดค่ะ

โอ้ว คนจะเยอะไปไหน เยอะมากค่ะ บอกได้เลยว่านี้คือคนที่ไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งในบางวันรถและเรือเต็มค่ะ แนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้าแบบไม่กระชั้นชิดค่ะ จะได้เดินทางสะดวกสบาย

รถมารอแล้วค่ะ กรณีที่จองรถไว้ล่วงหน้า คนขับรถจะโทร confirm การเดินทางกับเรา อีกครั้ง 1 วันก่อนเดินทางจริง ส่วนมากจะแจ้งเลขทะเบียนรถที่จะขึ้นค่ะ เราจะได้ทราบว่าขึ้นรถคันไหนค่ะ

กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0829400005

สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th

กระเป๋าสัมภาระ สามารถยกใส่หลังรถได้ค่ะข้างหลังขค่อนข้างกว้างพอสมควรค่ะ

รถคันที่นั่ง 12 ที่นั่งค่ะ ภายในค่อนข้างกว้างไม่ได้นั่งเบียนกันเลย นั่งสบายค่ะ 2 ชม. เราจะถึงท่าเรือปากบารา

ถึงแล้วค่ะท่าเรือ ปากบารา เรือจะมาจอดที่ ออฟฟิตเรือที่เราจองไว้ค่ะ ค่อนข้างสะดวกสบาย เพราะเราจองรถ และเรือไว้ล่วงหน้าแล้ว วันนี้เราจะเดินทางโดยเรือหลีเป๊ะเฟอร์รี่แอนด์สปีดโบ๊ท รอบ 11.30 น. ซึ่งเป็นรอบเดียวต่อวันที่แวะ ตรุเตา-เกาะไข่ ก่อนเข้าหลีเป๊ะค่ะ

lobby เรือหลีเป๊ะ เฟอร์รี่แอด์สปีดโบ๊ท เราจะเชคอินที่นี้ก่อนไปขึ้นเรือค่ะกรณีจองไว้ล่วงหน้าเราจะได้ voucher ทาง mail และ line สามารถเปิด voucher ผ่านมือถือในการเชคอินได้เลยค่ะเอกสารไม่ต้องปริ้น

หลังจากเชคอินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็เดินมาขึ้นเรือที่ท่าเรือปากบาราค่ะ

กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0829400005

สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th

นักท่องเที่ยวทุกคนต้องชำระ ค่าทำเนียมการใช้บริการท่ารเรือ คนล่ะ 20 บาทค่ะ

ส่วนอันนี้ที่ต้องชำระ คือค่าทำเนียมการเข้าใช้อุทยาน หมู่เกาะตรุเตา รวมไปถึงค่าอำนวยความสะดวก บัตรใบนี้โปรดเก็บรักษาให้ดีค่ะ เพราะตอนไปดำน้ำ เจ้าหน้าที่อุทยานจะขอตรวจบัตรด้วยค่ะ ถ้าทำหายอาจจะต้องซื้อใหม่ ราคา40 บาท

ภายในท่าเรือปากบารา จะมีที่นั่งรับรองสำหรับผู้โโยสารที่เตรียมตัวลงเรือ ซึ่งอาจจะมีไม่เพียงพอกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางในแต่ล่ะ มีห้องน้ำให้บริการ สำหรับกลุ่มพวกเรา เตรียมลงเรือรอบ 11.30 น. ค่ะ พนักงานจะเรียกลงเรือตามบัตรคิว ไม่มีการแย่งกันลงเรือนะค่ะ

ภาพการต่อแถวรอลงเรือค่ะ กระเป๋าของนักท่องเที่ยวลูกเรือ จะแยกเก็บไว้ในส่วนหัวเรือ ที่นั่งภายในเรือจะนั่งแถวเรียงซ้ายขวา ฝั่งล่ะ 3-4 คน และแต่ขนาดของเรือสปีดโบ๊ทที่เรานั่งค่ะ เรือใช้เวลาประมาณ 45 นาที จะแวะที่เกาะตะรุเตา เป็นที่แรก ( หมายเหตุ ในช่วงฤดูมรสุม อุทยานแห่งชาติ ตรุเตา ไม่เปิดให้เข้าชม เรือทุกลำจะวิ่งตรงไปหลีเป๊ะ เลยค่ะ)

อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะ ตะรุเตา น้ำทะเลจะออกสีฟ้าคราม ทรายขาวละเอียด เกาะ ตะรุเตาเป็นเกาะที่มีขนาใหญ่ ในบรรดาหมู่เกาะ 51 เกาะ

กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0829400005

สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th

หลังจากที่แวะ ตะรุเตา เกาะต่อไปที่เราจะเดินทางไป คือเกาะไข่ค่ะ

นั่งเรือต่อมาประมาณ 25 นาที เราก็จะถึงเกาะไข่ ค่ะ น้ำทะเลใสมาก ประทับใจทุกครั้งที่ได้มา

หากใครได้มาแวะเที่ยวที่  เกาะไข่  สิ่งที่ไม่ควรพลาด คือซุ้มประตูหินที่ สร้างสรรค์ จากธรรมชาติอย่างลงตัว เรียกอีกชื่อว่า ซุ้มรักนิรันดร หากใครมาเป็นคู่ถ้าได้ลอดซุ้มประตูแห่งนี้เชื่อว่าจะมีความรักที่ยาวนาน

 ภาพมุม กว้าง ซุ้มประตูหินเกาะไข่ค่ะ ถือวาเป็นเกาะที่มีขนาดเล็ก รายล้อม ไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสรอบด้าน หลังจากแวะชมบรรยากาศเกาะไข่ เราจะนั่งเรือมุ่งหน้าสู่เกาะหลีเป๊ะ จุดหมายแห่งการเดินทางของทริปนี้

 ถึงแล้วค่ะ เบื้องหน้า คือ เกาะหลีเป๊ะ เรือสปีดโบ๊ท จะมาจอดเทียบโป๊ะกลางทะเล เรือไม่ไปเทียบหน้าหาดเพราะทำลายแนวประการัง เราจะต้องรอรับกระเป๋าให้เรียบร้อยตรวจสอบสัมภาระเสร็จ ก็ซื้อค่าตั๋วเรือหางยาวคนล่ะ 50 บาทเพื่อข้ามจากโป๊ะลง หน้าหาดพัทยา แล้วก็เดินต่อไปที่รีสอร์ท

นั่งเรือหางยาวประมาณ 10 นาทีถึงค่ะ พอเรือเทียบหน้าหาดพัทยา เราก็เดินทางเข้ารีสอร์ท ครั้งนี้เราพักที่ Akira resort  อยู่หน้าหาดพัทยา สามารถเดินไปได้ค่ะไม่ไกลมาก

Akira resort เป็นรีสอร์ทที่อยู่ติดหน้าหาดพัทยา หน้ารีสอร์ทหาดทรายขาวละเอียด สามารถเล่นน้ำหน้ารีสอร์ทได้เลยค่ะ แต่คนค่อนข้างเยอะเพราะเป็นหน้าหาดที่ใช้สำหรับขึ้นเรือข้ามฟาก

ด้านหน้าของรีสอร์ทจะมีสระว่ายน้ำอยู่ด้ายซ้ายมือ ด้านขวาจะเป็นที่ห้องอาหาร และที่นั่งรับรองของลูกค้าที่พักรีสอร์ทนี้

หลังจากเชคอินกับพนักงานเป็นที่เรียบร้อย แล้วไม่รอช้าค่ะ ทานอาหารมื้อบ่าายต่อเลยเนื่องจากออกเดินทางแต่เช้า วันแรกค่อนข้างเหนื่อย

มื้อบ่ายของวันจัดเต็มค่ะ หิวมากค่ะ อาหารรสชาติ ใช้ได้ค่ะ มีบ้างเมนูที่ไม่คุ้นปากเหมือนกันแต่ก็โอเครค่ะ 

ยำวุ้นเส้น เปรี้ยวนิดๆ อร่อยค่ะ กินซะไม่เหลือเลย

เมนูปลาหมึกชุบแป้งทอด  มาพร้อมกับซอสพริก 

หลังจากทานมื้อบ่ายเสร็จ ก็ขนกระเป๋าเข้าที่พักค่ะ ห้องที่พวกเราจองไว้จะเป็น pool access ซึ่งระเบียงหลังห้องจะเปิดออกไปเจอสระว่ายน้ำเลยค่ะ

 เราพักห้อง 2106 ค่ะ ภาพประตูภายนอกห้องพัก เดี๋ยวจะพาไปดูข้างในห้องพักกันนะค่ะว่าจะน่านอนขนาดไหน

เดินเข้าห้องมาก็มาเจอโวฟาตัวใหญ่ค่ะ นอนสบายมาก กว้างมาก ห้องนี้นอนได้ 3 คนเลยนะค่ะ เฟอณจัดเต็มากค่ะ

ตรงข้ามโซฟาก็จะเป็นทีวี ซึ่งทีวี สามารถยกปรับ สลับด้านได้ค่ะเผื่ออยากนอนดูทีวีบนเตียงนอน

เตียงนอนขนาด 5 ฟุต ด้าน ขวามือหันหน้าเข้าหาเตียงนอน ก็จะเป็นฝั่งห้องน้ำค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีลักษณะคล้ายๆ รีสอร์ท ทั่วๆไปค่ะ ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมาก

เดินออกจากหลังห้องจะเจอสระว่ายน้ำค่ะ สามารถลงเล่นน้ำที่สระจากห้องของตัวเองได้เลย

ว่ายน้ำเล่นกันสักหน่อย 

ท่าอะไรค่ะคุณเพื่อน555

หลังจากเล่นน้ำเสร็จ  ทานมื้อเย็นกันต่อที่รีสอร์ทค่ะ  เมนูอาหารก็เป็น ต้ำย้ำทะเล  ปอเปี๊ยะทอด ผัดเปรี้ยวหวานทะเล

กินกันจนพุงกางค่ะ หลังจากกินข้าวเสร็จ ไปเดินเล่นถนนคนเดินต่อค่ะ ไม่ไกลจากรีสอร์ทเดินประมาณ 300 เมตรเรียบหน้าหาดพัทยา

มาเดินเล่นถนนคนเดิน เฮียเค้าขอถ่ายรูป สวยๆเก็บไว้เป็นที่ระทึกสักหน่อย

มาแล้วนะ หลักกิโลเมตรที่ 0  เกาะหลีเป๊ะ

จุดจบสายแข็ง แห่งค่ำคืนนี้ โรตี เกาะหลีเป๊ะ ใส่ไข่ 60 บาท หมดพลังงานไปเยอะหลังจากเดินเล่นถนนคนเดิน แยกย้ายกันกับรีสอร์ทแล้วนอน พรุ่งนี้พร้อมลุย

เช้าวันที่สอง ตื่นขึ้นมาพร้อมความหิว ทาน breakfast ของรีสอร์ท มีให้เลือกเยอะมากค่ะทั้งไทยและเทศ จัดเต็มก่อนดำน้ำกันเลยทีเดียว

อาหารเช้าทานได้แบบไม่จำกัด

ขนมจับกุ้งอร่อยมาก เนื้อนุ่มมากมาย แนะนำให้มาลองค่ะ

หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อย พร้อมที่จะไปดำน้ำกันทั้งวันค่ะ กันแดด หนักๆนะค่ะ แดค่อนข้างแรงมีชุดว่ายน้ำแนะนำใส่แบบเต็มตัวค่ะ 

กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0829400005

สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th

จุดแรก เราจะมา  test ดำน้ำกันก่อน ไกด์จะสอนวิธีการใช้สน๊อคเกิ้ล สำหรับใครที่ใช้ไม่ถนัด แนะนำให้ซื้อแบบครอบทั้งหน้ามาใช้ค่ะ สะดวกสบายมาก 

เราได้นั่งเรือผ่าน  เกาะหินซ้อน ( Kon hinzon) ซึ่งเป็นเกาะส่วนหนึ่งใน  หมู่เกาะดง  อยู่ห่างจากหลีเป๊ะประมาณ 15 กิโลเมตรค่ะ  เป็นเกาะที่มีก้อนหินขนาดใหญ่มาก เข้าไปใกล้ๆ กลัวหินหล่ยใส่ คิดไปขนาดนั้น  หลังจากดำน้ำตามจุดไปเรื่อยๆ ก็แวะกินมื้อเที่ยงที่เกาะราวี หลังจากกินข้าวเสร็จก็ไปเกาะหินงามต่อ ระหว่างการออกดำน้ำจะไม่มีสัญญาณ โทรศัพท์ ใดๆทั้งสิ้น

เกาะหินงาม เป็นเกาะที่มีหินสีดำ ในละแวกหมู่เกาะข้างเคีย จะไม่มีหินในลักษณะนี้ สวยไปอีกแบบค่ะ ห้ามซ้อนหินนะค่ะ เพราะจะทำให้หินล่นลงมาแตก

เพื่อนเรากับไกด์ เป็นคนมีน้ำใจเสมอค่ะ ( เฉพาะกับสาวๆ) เค้าขอให้ถ่ายรูปให้ จัดไปค่ะ

ถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระทึกไว้เป็นความทรงจำ ครั้งนึงเรามา หลีเป๊ะ ด้วยกัน แด่มิตรภาพ 14 ปีของพวกเรา

ขอสักรูปนะถ่ายให้คนอื่นมาเยอะล่ะ  หินค่อนข้างลื่นควรเดินด้วยความระมัดระวัง

พยูนตัวสุดท้ายของเกาะหลีเป๊ะ 55555

หลังจากเกาะหินงาม จุดสุดท้ายที่เราจะไปดำน้ำ คือ ร่องน้ำจาบังวันนี้น้ำ 14 ค่ำ น้ำแรงมากไม่สามารถไปดำน้ำช่วงเช้าได้ต้องรอช่วงเย็นๆ หากใครได้มาดำน้ำที่ร่องน้ำจาบัง คุณต้องเชื่อให้สิ่งที่ไกด์บอก ห้ามฝืนทำเด็ดขาดในสิ่งที่ห้ามทำ เช่น กรณีดำน้ำ ห้ามปล่อยเชือก เพราะน้ำแรงมาก ต่อให้ว่ายน้ำเก่งแค่ไหน ต้องสวมชูชีพ ห้ามนั่งบนเชือกเพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวท่านอื่น ถูกดึงลงน้ำ ในระดับที่ลึกกว่าผิวน้ำ อาจทำให้สำลักน้ำได้ เป่านกหวีด กรณีฉุกเฉินต้องการให้ไกด์ หรือลูกเรือช่วยเหลือ มีติดอยู่ที่ชูชีพทุกตัวค่ะ

ความสวยงามของร่องน้ำจาบัง คือ ประการัง เจ็ดสี  ถือว่าเป็นร่องนำที่มีความอุดมสมบูรณืของประการังอยุ่เป็นจำนวนมาก รูปนี้ไกด์ถ่ายให้นะค่ะ ลงเองคงไม่ได้ค่ะ น้ำแรงมาก

ประการังจาน อยู่ท่ามกลาง ประการังเจ็ดสี

ความสวยงามที่แฝงไปด้วยหอยเม่น  หลังจากดำน้ำเสร็จได้เวลากลับรีสอร์ท สนุกทั้งวัน กลับมาแบบดำมาก

ขากลับโต้คลื่นกันหน่อยค่ะ  ยังไหว มันก็อาจจะมีเวียนๆหัวหน่อยแต่ก็สนุกดีค่ะ นั่งเรือ30 นาทีถึงหน้าหาดพัทยา แยกย้ายกันเข้ารีสอร์ท

กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0829400005

สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th

หลังจากดำน้ำเสร็จแยกกันกลับห้อง มาเจอกันอีกทีคือมื้อเย็น จัดเต็มก่อนเดินทางกลับพรุ่งนี้ค่ะ 

กุ้งสดๆตัวใหญ่มาก มื้อนี้อาหารส่วนมากเป็น อาหารทะเล

ท่ากินจะพิสดารไปไหนคุณเพื่อน!!!!!!!!  หลังจากอิ่มท้องกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นัดแนะการเดินทางกลับพรุ่งนี้กันก่อน ขากลับเรากลับ สปีดโบ๊ท รอบ 09.30น. นัดเจอกันเพื่อเชคเอาท์ เวลา 08.30 น.

วันนี้เป็นวันที่เราเดินทางกลับแต่เช้า เชคเอาท์เสร็จเดินมารอขึ้นเรือที่ หน้าหาดพัทยาค่ะ ขอเก็บภาพความประทับใจก่อนเดินทางกลับสักรูปนะค่ะ

เราต้องต่อเรือหางยาวไปที่โป๊ะค่ะ เรือเทียบหน้าหาดไม่ได้เนื่องจากท้องเรือลึกและทำลายแนวประการังหน้าหาด ค่าเรือหางยาว 50 บาท/คน ค่ะ ก็ถือว่าเราควรช่วยกันอนุรักษ์ความสมบูรณ์ของแนวประการังให้อยู่กับเราไปนานๆค่ะ คนอื่นมาเที่ยวทีหลังจะด้พบความสวยงามเหมือนเรา

วันนี้เดินทางกลับโดยเรือเฟอร์รี่ เรือจะจอดเทียบโป๊ะรอเราอยู่ ต้องมารอขึ้นเรือ ที่โป๊ะก่อนเวลาเรืออก 30 นาทีค่ะ

ถึงโป๊ะแล้วพนักงานจะขอตรวจตั๋วเรือก่อนเข้าในเรือค่ะ เรือที่นั่งได้ตามสบายค่ะ

กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0829400005

สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th

ภายในเฟอร์รี่ค่ะ ในเครื่องจะติดแอร์ ทั้งหมดค่ะ มีชูชีพ และมีห้องน้ำภายในตัวเรือค่ะ ใช้เวลานั่งประมาณ 2 ชม.จะถึงท่าเรือปากบาราค่ะ เฟอร์รี่จะใช้เวลานั่งนานกว่าสปีดโบ๊ท 30 นา ทีค่ะ

ถึงท่าเรือปากบาราแล้ว พอถึงท่าเรือรับกระเป๋าเสร็จก็เดินมารอขึ้นรถ ที่ lobby เรือขามาที่เดิมค่ะ

รถจอดรอเราอยู่ที่ lobby เรือค่ะ ขากลับ บินไฟลืดึก เลยจะแวะกิมหยงซื้อของฝากก่อนเข้าสนามบิน ปกติการจองรถจะต้อง book จองเลยว่าจะเลือกลงในตัวเมืองหาดใหญ่ หรือ สนามบิน เพราะรถแยกกันส่งคนล่ะเส้นทางค่ะ กรณีเลือกลงตลาดกิมหยง ซื้อ ของเสร็จ ก็ต้องนั่งรถสองแถวต่อเข้าสนามบินเอง แต่ของกรุ๊ปเราคือ book รถตู้แบบเหมา ราคาจะสูงกว่าปกติเล็กน้อยแต่ เวลาไปซื้อของฝาก คนขับจะรอรับไปส่งสนามบินด้วยเลยค่ะ ไม่ต้องต่อสองแถวไปแบบกรุ๊ปอื่นที่ไม่ได้เหมา

คุณเพื่อนรถจะออกแล้วนะค่ะ ยังห่วงกินติมอยู่ได้ เดี๋ยวปล่อยทื้งไว้ท่าเรือซะเลย

นั่งรถประมาณ 1 ชม.30 นาที รถมาส่งเราที่ตลาดกิมหยง ในเวลาแวะซื้อของฝาก ประมาณไม่เกิน 2 ชม.ค่ะ นัดแนะสถานที่ขึ้นรถเพราะรถจอดรอไม่ได้ถนนแคบค่ะ เอาเป็นว่าลงรถตรงไหนกลับมาขึ้นรถตรงนั้นตามเวลาที่นัดกันไว้ค่ะ

ตลาดกิมหยง จะเป็นตลาดขึ้นชื่อของ หาดใหญ่ มีของฝากค่อนข้างเยอะค่ะ พวกผลไม้อบแห้ ถั่วแอบแห้ง ขนมที่ราคาค่อนข้างถูก

ร้านแรกที่แวะค่ะ แวะซื้อถั่วพิตาซิโอ ราคากิโลล่ะ 380 บาท บอกเลยอร่อยมากค่ะ

ไม่โลคิวค่ะ ถุงล่ะ 120  บาท ขนมมีให้เลือกเยอะเลยค่ะ ชอบแบบไหนจัดเลยค่ะ  ซื้อของเสร็จก็ไปรอขึ้นรถไปส่งที่สนามบินตามจุดที่คนขับรถนัดไว้ ไฟล์ บิน 19.05น. ไม่รีบมากค่ะมีเวลาเหลือ

หลังจากซื้อของเสร็จก็มารอขึ้นรถที่เดิม ตามเวลาที่นัดกันไว้กับคนขับรถ  รถขับมาส่งสนามบินใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจากตลาดกิมหยง ถึงสนามบินค่ะ ก่อนลงรถเชคของให้เรียบร้อยนะค่ะ จะได้ไม่ลืมของไว้บนรถ คนขับจะช่วยเชคอีกทีค่ะ

กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0829400005

สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th

กินแซนวิส รอก่อนขึ้นเครื่องค่ะ คนรอกลับค่อนข้างเยอะร้านไหนว่างเข้าไปนั่งเลยค่ะ รอช้าไม่มีที่นั่งแน่นอน

ก่อนกลับ กาแฟ สักแก้วค่ะแก้ง่วง ขากลับเดินทาง 1 ชม.25  นาที ถึงกรุงเทพประมาณ 20.30น.  ไม่กลับไปเจอคนติดมาก ถ้าใครบินกลับไฟล์บ่ายก็จะไปเจอปัญหารถค่อนข้างติดค่ะ

วันนี้เดินทางกลับ โโยสายการบิน Thai Lion

หวังว่า การรีวิวการเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ ต่อท่านใดที่กำลังหาข้อมูลในการเดินทางไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ หรือ ท่านใดที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อน ที่ได้รับการขนานนามว่า มัลดีฟเมืองไทย ไม่มากก็น้อยค่ะ หากมีข้อมูลผิดพลาดประการใด ต้องขอ อภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ

กดโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ ☎  0829400005

สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://ferryadvice.com/th

Tel : 082-940-0005 (ให้บริการ 24 ชม.)

ID line : ferryadvice2  (ให้บริการ 24 ชม.) กรุณาสำรองที่นั่งก่อนเดินทางจริงอย่างน้อย 3 วันเดินทางเนื่องจากรถและเรือมีปริมาณจำกัดค่ะ